Breaking News

อ.เจษฎาโพสต์ขอขมา ปมบั้งไฟพญานาค หลังโดนถล่มยับ

Post Date : วันที่ 13 ต.ค. 2557 เวลา 09:30 น.

อ.เจษฎา โพสต์ขอขมากรณี บั้งไฟพญานาค ย้ำไม่เคยพูดว่าบั้งไฟทุกลูกเป็นกระสุน

ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กชี้แจงประเด็น บั้งไฟพญานาค โดยระบุว่า หลังจากมีหลังไมค์มาเรียกร้องให้ผมขอขมาพร้อมชี้แจงประเด็น บั้งไฟพญานาค ไม่งั้นก็ขอเตือนไว้ว่ามีคนที่โมโหผมอยู่เป็นจำนวนมาก และจะประสบชะตากรรมเหมือนไอทีวีในอดีต

1. ผมขออภัยที่ทำให้หลายท่านขุ่นข้องหมองใจ ... ซึ่งผมเชื่อว่าเป็นความเข้าใจผิด อันเนื่องจากการที่ปีนี้ผมไม่ได้ชี้แจงซ้ำบนเฟซบุ๊กถึงแนวทางในการที่ผมและเพื่อนๆ ถ่ายรูปบั้งไฟ และทำคลิปอธิบายทฤษฎีกระสุนส่องวิธี
      
2. ผมและเพื่อนสนใจหาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับลูกไฟประหลาดที่เรียกว่าบั้งไฟนี้ ว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่จะเกิดจากแก๊สธรรมชาติตามที่หลายคนเข้าใจกัน โดยไม่ได้สนใจในสาเหตุอื่นที่เหนือธรรมขาติ เช่น พญานาคทำหรือไม่ หรือพญานาคมีจริงหรือไม่ หรือเกี่ยวข้องกับศาสนาและความเชื่อพื้นถิ่นอย่างไร
      
3. การอธิบายถึงสาเหตุทางวิทยาศาสตร์นึ้ จำเป็นต้องเริ่มจากการตอบคำถามให้ได้ก่อนว่าลูกไฟผุดขึ้นจากน้ำจริง อย่างที่หลายต่อหลายคนอ้างว่าเห็น แต่กลับไม่มีภาพถ่ายหลักฐานเลย ...
ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดในการตอบคำถามนี้ คือการถ่ายรูปแบบเปิดหน้ากล้องนานๆ จนเห็นว่าลูกไฟนั้นพุ่งมาจากกลางลำน้ำ หรือจากฝั่งกันแน่
      
4. ด้วยวิธีนี้ เราได้ลองถ่ายรูปในหลายอำเภอ ตำบล หมู่บ้านที่มีการดูบั้งไฟกัน รวมทั้งจากฝั่งลาวด้วย .... ซึ่ง 3 - 4 ปีที่ผ่านมานี้ เรายังไม่เคยถ่ายภาพลูกไฟขึ้นจากน้ำได้ แต่ได้ภาพแสงไฟขึ้นจากฝั่ง หรือจากเรือไฟแทน รวมทั้งคลิปวิดีโอด้วย ซึ่งมีลักษณะตรงกับภาพที่จะได้จากกระสุนส่องวิถี tracer round ทั้งหมด
      
5. กระนั้น เราไม่เคยพูดว่าลูกไฟบั้งไฟทุกลูกที่ไปดูกันในวันออกพรรษานั้นเป็นกระสุน เพียงแต่รูปถ่ายทุกรูปที่ถ่ายได้นั้น น่าจะเป็นกระสุนแน่ๆ แต่ใครยิง เราไม่ทราบ
      
6. ข้อมูลภาพและคลิปที่เราเผยแพร่ในแต่ละปีนี้ น่าจะช่วยให้คนที่สนใจ และไม่เชื่อพวกเรา ได้ออกมาลองถ่ายภาพพิสูจน์ด้วยตนเองในปีต่อๆไป ... เผื่อว่าจะได้มีภาพบั้งไฟขึ้นจากกลางลำน้ำ มาใช้ศึกษาทางวิทยาศาสตร์ต่อไป ว่าเกิดจากอะไรกันแน่
      
7. การที่หลายคนที่ผมถกเถียงด้วยหลังไมค์ ได้ยอมรับในภาพถ่ายกระสุนขึ้นจากฝั่ง ว่าบั้งไฟของปลอมนั้นมีจริงและมีเยอะด้วย ขณะที่บั้งไฟของจริงนั้นหายากมากแล้ว ....จึงน่าจะเป็นโอกาสร่วมกัน ที่จะรณรงค์ในปีหน้าๆ ต่อไปให้คนแยกแยะออกในการดูบั้งไฟของจริงของปลอมเทียบกันด้วยวิธีการถ่ายรูป จะได้ช่วยกันนับว่าจริงๆแล้วบั้งไฟของจริงนั้นมีมากน้อยแค่ไหนกันแน่
      
8. ขอสรุปอีกครั้งว่า ผมขอขมาลาโทษด้วยที่ทำให้โมโหกัน ซึ่งผมมีเจตนาเพียงงานทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น และไม่เคยพูดว่า บั้งไฟทุกลูกเป็นกระสุนครับ
      
ด้วยความเคารพในสิทธิที่แต่ละท่านจะเลือกเชื่อเรื่องใดๆ
เจษฎา

ปล. ผมขออภัยอย่างสูงที่เล่นมุก เมีย อบต. ไป .... อันนี้ไม่ดี ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างครับ

ข่าวด่วน ข่าวสั้นอื่นๆ