วันที่ 17 เม.ย. 2561 เวลา 11:20 น.
Views
พลตำรวจเอกวัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวว่าตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช.ฉบับใหม่ให้อำนาจตรวจสอบบุคคลทั้งรัฐ พระและเอกชนที่เข้าข่ายเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐเป็นตัวการหลักในการทุจริต โดยจะมีการตรวจสอบตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ซึ่งในส่วนของคดีนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของสำนักไต่สวนภาครัฐ 1
โดยในการประชุมวันนี้จะได้สั่งการให้เลขาธิการ ป.ป.ช.เร่งรัดดำเนินการ เพราะเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและผู้เกี่ยวข้องเป็นพระผู้ใหญ่ ซึ่งเลขาธิการ ป.ป.ช.มีอำนาจในการพิจารณาว่าข้อมูลที่ยื่นมาเพียงพอต่อการไต่สวนหรือไม่ หากยังไม่สมบูรณ์ก็สามารถสั่งให้ไปแสวงหาข้อเท็จจริงได้
สำหรับคดีนี้ถือเป็นคดีที่ 4 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ส่งให้ ป.ป.ช.เพื่อตรวจสอบความผิดทางอาญา กรณีทุจริตงบการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา แผนกธรรม และแผนกบาลี พัวพันกับวัด 3 แห่ง ในกรุงเทพมหานคร มีพระผู้ใหญ่ระดับเจ้าอาวาสและรองเจ้าอาวาสกระทำผิด 5 รูป โดย 3 ใน 5 เป็นกรรมการเถรสมาคมด้วย
ส่วน 3 คดี ที่ ปปป.ส่งไปก่อนหน้านี้ เป็นการทุจริตงบอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัดและงบเผยแผ่ศาสนา เกี่ยวพันกับวัด 22 แห่ง มีผู้กระทำผิดรวม 19 คน รวมความเสียหายจากการทุจริตเงินทอนวัดทั้ง 4 คดี กว่า 141 ล้านบาท
Tag : ป.ป.ช. การศึกษาพระปริยัติธรรม