พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ยังวัด 3 แห่ง คือ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร, วัดราชบพิธ สถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร จึงมีความจำเป็นต้องปิดการจราจร จากเดิมที่ปิดพื้นที่ชั้นในรอบพระบรมมหาราชวัง 8 เส้นทาง จะขยายออกไปยังพื้นที่ชั้นกลางโดยรอบที่จะเชื่อมต่อเข้าพื้นที่ชั้นใน และปิดต่อเนื่องไปจนถึงพื้นที่ชั้นนอก รวมปิดเส้นทางเพิ่มเติมทั้งสิ้นอีก 47 เส้นทาง
สำหรับประชาชนที่จะเดินทางมารอเฝ้ารับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะทั้งทางบก, ทางน้ำ และระบบขนส่งทางราง โดยผู้ที่เดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว สามารถนำรถไปจอดยังจุดจอดรถ 4 มุมเมือง รวม 27 จุด ซึ่งรองรับรถยนต์ได้ประมาณ 3,000 คัน โดย ขสมก.จะจัดรถรับ-ส่ง เข้าพื้นที่รวม 6 จุดคือ ที่ สถานีขนส่งหมอชิต, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ วงเวียนใหญ่, สนามศุภชลาศัย, สถานีขนส่งสายใต้เก่า และสถานีรถไฟหัวลำโพงส่วนทางน้ำ
เรือด่วนเจ้าพระยาให้บริการฟรี จากจังหวัดนนทบุรีถึงท่าเรือปิ่นเกล้าฯ และจากท่าเรือสาธรถึงท่าเรือสะพานพุทธฯ
การขนส่งทางราง การรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดเดินรถพิเศษสายชานเมือง 24 ขบวน และเปิดให้บริการรถไฟชั้น 3 ฟรี ส่วนรถไฟฟ้า BTS และ MRT ก็ให้บริการฟรีในวันนี้เช่นกัน
สำหรับผู้ที่เดินทางมาถึงจุดคัดกรองแล้ว ให้เตรียมบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง โดยขณะเดินผ่านเครื่องตรวจ ให้ยกบัตรขึ้นเสมอหูด้านขวาเพื่อบันทึกภาพ, เปิดกระเป๋าสัมภาระให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ, ผู้ที่นำเด็กเล็กมาด้วยให้พบเจ้าหน้าที่เพื่อทำบัตรคล้องคอ โดยเขียนชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ปกครองติดตัวเด็กไว้, หากมีโรคประจำตัวควรพกยามาด้วย, แต่งกายสุภาพเสื้อสีเหลืองหรือสีโทนอ่อน, ไม่ควรนำของมีค่าติดตัวมา และห้ามพกพาอาวุธโดยเด็ดขาด โดยจุดคัดกรองทั้ง 22 จุด เจ้าหน้าที่จะเปิดให้ผ่าน ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป
