ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ทวีตข้อความยืนยันแล้วว่า ได้สั่งการให้นำน้ำมันจากแหล่งสำรองทางยุทธศาสตร์ออกมาสู่ตลาด เพื่อชดเชยกำลังผลิตน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลง หลังจากเกิดเหตุฝูงโดรนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในซาอุดีอาระเบียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้ซาอุฯต้องลดกำลังการผลิตลงถึงครึ่งหนึ่ง คำสั่ง ทรัมป์ ในครั้งนี้ มีขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงจนเกิดความผันผวน
ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯทวีตข้อความว่า สหรัฐฯพร้อมที่จะปล่อยน้ำมันสำรองออกสู่ตลาดโลก หากราคาน้ำมันโลกได้รับผลกระทบจากการโจมตีครั้งนี้ สหรัฐฯเชื่อว่า ผู้ที่ลงมือก่อเหตุร้ายเป็นกลุ่มใด แต่พร้อมติดตามความข่าวสารเกี่ยวกับเหตุการณ์โจมตีดังกล่าว จากทางการซาอุดีอาระเบียอย่างใกล้ชิด นอกจากนั้นผู้นำสหรัฐฯยังปฎิเสธเรื่องการพร้อมเจรจากับอิหร่านโดยไม่มีเงื่อนไขด้วย
สาวนราคาน้ำมันตลาดโลกพุ่งขึ้นกว่า 10 เปอร์เซนต์ หลังโรงกลั่นน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย 2 แห่งถูกโจมตีด้วยโดรนจากกลุ่มกบฎ"ฮูถี" เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมามีการเปิดเผยภาพถ่ายดาวเทียม ถึงความเสียหายของโรงกลั่นน้ำมันสำคัญ 2 แห่ง ของบริษัท"อารัมโก"(Aramco) ของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ในเมือง"อับกาอิก"และ"คูราอิส"ทางตะวันออกของซาอุดิอาระเบีย หลังถูกโดรนโจมตี
กลุ่มกบฎ"ฮูถี"อ้างความรับผิดชอบว่าเป็นฝีมือของตน ขณะที่สหรัฐฯเชื่อว่าอิหร่านเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีในครั้งนี้ แต่อิหร่านได้ออกมาปฎิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวแล้ว จากความเสียหายของโรงกลั่นน้ำมันทั้ง 2 แห่ง ส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตน้ำมัน 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็น 5 เปอร์เซนต์ของปริมาณการส่งออกน้ำมันในตลาดโลก ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกเช้าวันนี้ พุ่งขึ้นกว่า 10 เปอร์เซนต์ โดยราคาน้ำมันดิบ "เบรนท์" พุ่งขึ้น 11.77 เปอร์เซนต์ ไปซื้อขายกันที่ 67.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมัน ดิบ"เวสต์ เท็กซัส"พุ่งขึ้น 10.68 เปอร์เซนต์ อยู่ที่ 60.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
