สังคมไทยทุกวันนี้ มีบางแง่มุมที่เสื่อมถึงขีดสุด เห็นได้จากข่าวคราวที่แม่พาลูกสาววัย 15 ปี ไปขายบริการทางเพศ โดยอ้างว่าลูกสาวอยากมีเงินใช้ แต่ไม่มีเงินจะให้ ซึ่งกรณีแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในบ้านเรา
แต่จากข่าวนี้ทางฝั่งลูกสาวบอกว่าจริงๆ แม่ไม่ได้บังคับ แต่เธออยากมีเงินใช้เที่ยวเตร่เอง ซึ่งกรณีสมัครใจไม่ได้ถูกบังคับแบบนี้ ก็ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกเหมือนกัน ทำให้ปัญหาค้าประเวณีเด็ก ยังคงเป็นปัญหาสังคม ที่แก้กันไม่ตกสักที
ซึ่งหากจะถามว่า แล้วตอนนี้ในประเทศไทยมีการค้าประเวณีเด็กอยู่จำนวนมากน้อยแค่ไหน คงจะหาตัวเลขที่ชัดเจนไม่ได้ แต่พอจะมีผลการศึกษาของ Willis & Levy เมื่อปี 2002 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร The Lancet ว่า ประเทศไทยมีจำนวนการค้าประเวณีเด็กต่อประชากรสูงมากประเทศหนึ่ง ในกลุ่มประเทศที่ทำการสำรวจ
ประเทศไทยมีอัตราการค้าบริการทางเพศเด็กสูงถึง 321 คนต่อประชากร 100,000 คน ซึ่งสูงกว่าหลายประเทศ ทั้งสาธารณรัฐโดมินิกันและประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างเวียดนามและกัมพูชา แต่ต้องย้ำว่าข้อมูลนี้ตีพิมพ์มาแล้ว 10 กว่าปี ซึ่งข้อมูลอาจเปลี่ยนแปลงได้ในการสำรวจครั้งใหม่
ซึ่งหลายคนเชื่อว่าจำนวนนี้ต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เพราะว่าทุกวันนี้มีเด็กสาวที่สมัครใจเข้าสู่วังวนนี้เองเพิ่มขึ้น
อย่างที่เคยมีผลการศึกษาพบว่า มีถึง 4 ใน 5 คน ที่ขายบริการทางเพศ เธอตัดสินใจประกอบอาชีพนี้ ตามคำชักชวนอย่างง่ายดาย เพียงเพื่อให้มีรายได้มาจุนเจือครอบครัว
ที่น่าห่วงคือ เด็กสาวบางรายบอกว่า ต้องการหาประสบการณ์แปลกใหม่ จากเดิมจะต้องเป็นเด็กสาวที่ยากจน ขาดการศึกษา จึงจะถูกล่อลวง แต่ปัจจุบันอาจเป็นเด็กที่ถูกเลี้ยงแบบปล่อยปละละเลยมีปัญหาครอบครัว ขาดที่พึ่งยึดเหนี่ยว และขาดทักษะชีวิต จนตกเป็นเหยื่อให้ค้าบริการทางเพศในที่สุด
สอดคล้องกับผลสำรวจที่ทางศูนย์การเฝ้าระวังและเตือนภัยทางสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ถึงสาเหตุของปัญหาค้าประเวณีเด็กในสังคมไทย พบว่าเกิดจากปัญหาความยากจนมากที่สุด ร้อยละ 77.4 รองลงมาเกิดจากความต้องการให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ร้อยละ 75.1 และเกิดจากเพื่อนฝูงชักจูง ร้อยละ 42.4
โดยปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจของเด็กๆ นักวิชาการต่างเห็นตรงกันว่ามาจากครอบครัว ทั้งเรื่องของความยากจน ครอบครัวแตกแยก การเลี้ยงดูและการอบรมอย่างไม่ถูกวิธี
เหล่านี้เป็นสาเหตุทำให้เด็กสาวใช้ชีวิตแบบไร้ทิศทาง ซึ่งถ้าไม่สมัครใจทำผิดเอง ก็มีสิทธิ์ถูกล่อลวงได้ง่ายๆ
มีข้อมูลที่รวบรวมโดยหน่วยสวัสดิการของสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับวิธีการล่อลวงเด็กไปค้าบริการทางเพศ โดยผู้ล่อลวงจะถือโอกาสขณะหญิงกำลังกลุ้มใจหรือมีความทุกข์ และชักชวนไปทำงานในต่างที่ต่างทาง ซึ่งวิธีนี้มักใช้กับหญิงสาวที่อยู่ชนบท หรือขอรับเป็นผู้อุปการะเด็กสาว โดยแอบอ้างว่าเป็นผู้ทำงานในตำแหน่งสูงร่ำรวย แสดงความเห็นใจที่ต้องได้รับความยากลำบาก ยินดีอุปการะ หรือมีอาชีพให้
ยังมีวิธีแสดงตนเป็นผู้มั่งมี ให้เงินแก่บิดามารดา แก่เด็กสาว แม้กระทั่งวิธีการแสร้งมาขอแต่งงานด้วย โดยอ้างว่าถ้าแต่งงานด้วย จะได้ทรัพย์สินมรดกมากมาย เมื่อบิดามารดาตกลงใจให้แต่งงาน เด็กสาวนั้นจะถูกนำมาขายต่ออีกทีหนึ่ง หรืออาจใช้ยาปลุกอารมณ์ในโอกาสใกล้ชิด เมื่อทำลายความบริสุทธิ์ของเด็กสาวแล้วก็จะบังคับให้ไปค้าประเวณีต่อไป
ยังมีการใช้ยาเสพติด เช่น เฮโรอีนใส่ในเครื่องดื่ม หรือในบุหรี่ หลอกให้เด็กสาวดื่มหรือสูบ เมื่อเด็กติดยาหาเงินซื้อไม่ได้ ก็ต้องให้หาเงินมาซื้อ ถ้าไม่มีเงินก็บังคับให้ค้าประเวณี รวมถึงการใช้ยาสลบ วิธีนี้ให้หญิงเป็นนางนกต่อ โดยใช้ผ้าเช็ดหน้าซับยาสลบถือผ่านจมูก เมื่อเด็กสาวสลบ หญิงนั้นก็จะร้องให้ช่วยเหลือว่าญาติเป็นลม ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งความเป็นจริงถูกนำไปกักขังแล้วนำไปค้าประเวณี
เด็กๆ วัยรุ่นกลุ่มที่น่าเป็นห่วงเห็นจะเป็นกลุ่มเที่ยวกลางคืน ที่ถึงแม้ตั้งใจอยากไปเที่ยวเฉยๆ อาจจะตื่นมาอีกทีแล้วถูกขายต่อไปถึงไหนแล้วก็ได้
แต่สุดท้ายวิธีล่อลวงอะไรก็ไม่น่าห่วงเท่าความสมัครใจของหญิงสาวเอง ที่ต้องแก้ไขกันตั้งแต่การปลูกฝังค่านิยม ไม่ให้เด็กยึดติดกับวัตถุเงินทองจนทิ้งอนาคต
หากพบเบาะแสในเรื่องนี้ กรุณาแจ้ง 1300 ศูนย์ประชาบดี
