ทางการศรีลังกาปรับลดยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุก่อการร้ายด้วยการระเบิดฆ่าตัวตายและวางระเบิดหลายจุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จากเดิม 359 ราย ลงเหลือ 253 ราย อ้างเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ที่นับศพซ้ำและพบชิ้นส่วนร่างกายมากจนแยกแยะได้ยากว่าใครเป็นใคร ล่าสุดเลขาธิการความมั่นคงกลาโหมขอลาออก เพื่อรับผิดชอบเรื่องการละเลยคำเตือนล่วงหน้าของหน่วยข่าวกรองอินเดียแล้ว
แม้จะปรับลดยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดก่อการร้ายที่โบสถ์คริสต์และโรงแรมชั้นแนวหน้าในกรุงโคลอมโบและพื้นที่อื่นลงแล้ว แต่เหตุก่อการร้ายครั้งนี้ยังถือว่ามีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดยุคสงครามกลางเมืองเมื่อสิบปีที่แล้ว และจากการที่ทางการศรีลังกาเชื่อว่ากลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงNTJเป็นผู้ที่ลงมือโดยมีกลุ่มไอเอสจากต่างแดนให้ความช่วยเหลือ ทำให้ช่วงนี้ชาวมุสลิมในศรีลังกาที่ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่เมือง เนกอมโบ ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางความหวาดกลัวว่าจะถูกทำร้าย ขณะที่ทางการเตือนให้ชาวมุสลิมปฏิบัติศาสนกิจอยุ่ที่บ้าน อย่าไปมัสยิด
ส่วนการจับกุมคนร้ายจนถึงขณะนี้ทางการจับกุมผู้ต้องสงสัยไปแล้วกว่า 70 ราย หนึ่งในนั้นที่เป็นบิดาของมือระเบิดฆ่าตัวตาย 2 คน มีฐานะระดับมหาเศรษฐีจากธุรกิจขายเครื่องเทศ หลังจากทางการออกมายอมรับว่ามีความบกพร่องด้านการข่าว ในที่สุด นาย เหมาสิริ เฟอร์นันโด เลขาธิการความมั่นคงลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบที่ละเลยคำเตือนล่วงหน้าของหน่วยข่าวกรองอินเดีย ตามที่ประธานาธิบดี ไมตรีปาละ สิริเสนา เรียกร้อง ขณะที่ทางการศรีลังกายอมรับว่า หลังจากกลุ่มไอเอสอ้างอยู่เบื้องหลัง ทำให้หลายชาติเสนอความช่วยเหลือ ขณะที่หลายประเทศเตือนประชาชนของตนเองหลีกเลี่ยงเดินทางมาศรีลังกาในช่วงนี้ เพราะยังมีความเสี่ยงที่อาจเกิดเหตุก่อการร้ายซ้ำอีก
