ยูเมะพลัส โรด ทู เซเรโซ่ เดินหน้าสานฝันเด็กไทยสู่ญี่ปุ่นปีที่ 2

ยูเมะพลัส โรด ทู เซเรโซ่ เดินหน้าสานฝันเด็กไทยสู่ญี่ปุ่นปีที่ 2

View icon 136
วันที่ 7 มิ.ย. 2562 | 11.00 น.
News
แชร์
/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/06/07/100BGPU-1.jpg

โดยเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีพิธีเปิดโครงการ ‘ยูเมะพลัส โรดทู เซเรโซ่’ ปี 2 ณ ศูนย์ฝึกฟุตบอลยามาโอกะ ฮานาซากะ อะคาเดมี่ (YHA) ของสโมสร บีจีพียู เพื่อคัดเอาเด็กไทยที่มีอายุตั้งแต่ 12-15 ปี จำนวน 22 คน ไปฝึกทักษะฟุตบอลที่ประเทศญี่ปุ่นกับสโมสร เซเรโซ่ โอซาก้า ยอดทีมในเจลีก ซึ่งในงานนี้ ยังถือเป็นการคัดตัวในสนามที่ 2 ของโครงการด้วย

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/06/07/77BGPU-2.jpg

 
ภายในงานได้รับเกียรติจาก มร.ฮิโตชิ โยโกฮามา ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) รวมไปถึง ‘โค้ชง้วน’ สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ผู้อำนวยการสโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ นายวรเดช กฤตยาเกียรณ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาด บีจีพียู ที่มาร่วมพิธีเปิดโครงการ ท่ามกลางผู้สมัครที่เดินทางมาร่วมคัดตัวกว่า 700 คน

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/06/07/7BGPU-3.jpg

มร.ฮิโตชิ โยโกฮามา ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ไม่ใช่แค่การคัดเลือกสนามที่ 1  ในโซนภาคใต้ ที่ทำให้ตนรู้สึกประทับใจ แต่สนามที่ 2 ก็ยังได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากกว่าเดิม ซึ่งตรงกับความต้องการของ ยูเมะพลัส ที่ต้องการส่งเสริม และพัฒนาศักยภาพของเด็กไทย ขอให้ทุกคนโชคดีในการเป็น 10 คนสุดท้ายของสนามนี้ แต่ถ้าพลาดไป ก็มีอีก 4 สนาม ทั้งเชียงใหม่, ขอนแก่น, นครสวรรค์ และนครราชสีมา ให้ได้สู้อีก”

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/06/07/7BGPU-4.jpg

สำหรับการทดสอบจากโค้ช บีจีพียู อะคาเดมี่ ก็มีทั้ง การเลี้ยงบอล, การรับ-ส่งบอล, การโหม่งบอล, การยิงประตู รวมถึงการคัดเลือกในตำแหน่งผู้รักษาประตู ซึ่งจาก 700 คน จะคัดเอา 100 คน เพื่อทดสอบต่อ ในวันที่ 2 มิ.ย. และดึง 10 คนที่เข้ารอบสุดท้าย มาเข้าแคมป์เก็บตัวที่ศูนย์ฝึกฟุตบอลยามาโอกะ ฮานาซากะ อะคาเดมี่ (YHA) ในเดือน ต.ค. นี้ ร่วมกับผู้เข้ารอบจากอีก 5 สนาม แล้วคัดเอา 22 คนสุดท้าย เพื่อเดินทางไปเปิดประสบการณ์ที่ประเทศญี่ปุ่น ในเดือน พ.ย. ต่อไป

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/06/07/7BGPU-5.jpg

ซึ่งในวันที่ 2 มิ.ย. ได้มีการมอบประกาศนียบัตรให้กับเด็กไทยจำนวน 151 คนที่ผ่านการคัดเลือกวันแรก และ 10 คนที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย สนามที่ 2 ของโครงการ ‘ยูเมะพลัส โรดทู เซเรโซ่’ ปี 2  พร้อมเสื้อแจ็คเก็ต, ผ้าพันคอ จากสโมสร บีจีพียู

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/06/07/7BGPU-6.jpg

‘โค้ชง้วน’ สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ผู้อำนวยการสโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เปิดเผยถึงภาพรวมของการคัดเลือกในสนามที่ 2 ว่า “ด้วยความพร้อมของศูนย์ฝึกฟุตบอล ยามาโอกะ ฮานาซากะ อะคาเดมี่ ทำให้การคัดเลือกเป็นไปอย่างลงตัว จนได้ผู้เล่น 10 คน ซึ่งผ่านการคัดกรองจากทีมงาน บีจีพียู อะคาเดมี่ มาอย่างละเอียดถี่ถ้วน และเหมาะสมที่จะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย ส่วนสนามต่อไปที่เชียงใหม่ อยากให้ทุกคนเตรียมตัวกันมาให้พร้อม ซึ่งรายละเอียดดูได้ที่เว็บไซต์ และเฟซบุ๊กของสโมสร”

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/06/07/86BGPU-7.jpg

ด้านนายวรเดช กฤตยาเกียรณ ผอ.ฝ่ายสื่อสารการตลาด บีจีพียู กล่าวว่า "ในปีนี้ เรามีการจัดเตรียมความพร้อม ทั้งการรับสมัครทางระบบออนไลน์ และการจัดการกับสถานที่ เช่น ที่จอดรถ และในสนามต่อไป ที่เชียงใหม่ คาดว่า จะได้กระแสตอบรับที่ดีเช่นกัน โดยต้องขอบคุณ ยูเมะพลัส ที่ให้การสนับสนุนมากว่า 10 ปี และมีแนวทางเดียวกัน คือ พัฒนาเด็กไทยให้เก่งกาจด้านฟุตบอล ผมเชื่อนะว่า พรสวรรค์ ไม่สำคัญเท่ากับพรแสวง ขอให้ทุกคนโชคดี แล้วเจอกันที่สนามต่อไปครับ”

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/06/07/86BGPU-8.jpg
" 347916,"มีคนบอกไว้ว่า ใคร ๆ ก็เจอรักแท้ได้ถ้าเชื่อว่าความรักมีจริง?

ไม่ว่าจะเป็นเนทไอดอล , สาวรุ่นใหญ่สายเปย์ , หนุ่มสาวนักดื่มที่ร้านเหล้า , พ่อหม้ายลูกติด , ศิลปิน , นักเขียน , นักธุรกิจ , นักการเมือง , พ่อค้าร้านอาหาร , แม่ค้าออนไลน์ , บล็อกเกอร์ , ยูทูบเบอร์ , ฟรีแลนซ์ , ไฮโซตระกูลใหญ่ ฯลฯ

แต่ตัวเลขทางสถิติ ก็บ่งชี้ว่าตัวเลขการหย่าร้างเติบโตขึ้นทุกปี และตัวเลขไม่เคยหลอกเรา?

คุณยังเชื่อในรักแท้กันอยู่ไหม?

หาคำตอบไปพร้อมกันได้ใน รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน Love Battle
20 มิถุนายนนี้ ในโรงภาพยนตร์




/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/06/20/941122.jpg
" 348182,"นี่หนังรัก ไม่ใช่หนังแร็ป!!

เช็กลิสต์ศิลปินแร็ปเปอร์ ยกขบวนไปร่วมแสดงและทำดนตรีประกอบภาพยนตร์ รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน Love Battle จะมีใครบ้างต้องไปติดตาม

มาร่วมเป็นกำลังใจให้พวกเขากันได้ 20 มิถุนายน นี้ ทุกโรงภาพยนตร์

ชมตัวอย่างภาพยนตร์ คลิก >> https://activities.ch7.com/detail/347916

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/06/21/2461450869_446275766161562_1815696634110017536_n.jpg

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/06/21/9561183536_446287486160390_8552711725353271296_n.jpg

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/06/21/9560822934_446275846161554_1101515397523308544_n.jpg

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/06/21/9560770267_446275786161560_4024427950270054400_n.jpg

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/06/21/9560787889_446275739494898_4138198099183009792_n.jpg
" 348664,"ลิน ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นที่ 1 ในกลุ่มน้ำตาลสำหรับเค้กและเบเกอรี จัดงานประกวดเค้กแห่งปี Lin Thailand Sweet Creation 2019 ยกระดับวงการเค้กน้ำตาลปั้นพร้อมสนับสนุนเค้กดีไซเนอร์คนไทย เข้าร่วมแข่งขันงานประกวดเค้กโลกในปี 2019 ณ ประเทศอังกฤษ

นางสว่าง มั่นคงเจริญ และ ดร. ณัฐพล อัษฎาธร  กรรมการบริหาร กลุ่มน้ำตาลไทยรุ่งเรือง เจ้าของผลิตภัณฑ์น้ำตาลลิน ร่วมกันเปิดงาน Lin Thailand Sweet Creation 2019 ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ในวันที่    8-10 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา พร้อมกล่าวว่า “งานนี้ถือเป็นอีเว้นท์ใหญ่แห่งปีของน้ำตาลลิน โดยครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 4 นับว่าเป็นงานที่ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นกว่าทุกปีที่ผ่านมาทั้งจำนวนผู้เข้าร่วมประกวดเค้ก ผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 20,000 คน และครั้งนี้เรามีพันธมิตรที่มาร่วมสนับสนุนการจัดงานมากมาย อาทิ S&P  Anchor  Shugaa  กลุ่มเบเกอรีโซไซตี้  ห้องรวมสูตรขนมไทยและเบเกอรี และโครงการเข้าครัวด้วยกัน รวมถึง กูรูเค้กและเบเกอรีชื่อดังอีกมากมายที่เข้ามาร่วมจัดกิจกรรม นับเป็นโอกาสดีตั้งแต่เริ่มทำประชาสัมพันธ์ก่อนงาน หลังจากมีการเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์ เรื่องการจัดงานออกไป มีผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมงานกว่า 10,000 คน มีผู้สมัครเข้าร่วมกิจกรรม Workshop เต็มโควต้าตั้งแต่ 2 วันแรกของการเปิดรับสมัคร  มีผู้เข้าร่วมส่งผลงานประกวดรวมกว่า 50 ชิ้นงาน แม้กระทั่งศิลปินน้ำตาลปั้นจากจีน พอทราบข่าวยังขอร่วมส่งชิ้นงานประกวดด้วยถึง 4 ชิ้น ซึ่งเราก็เปิดโอกาสให้งานนี้ได้เป็นเวทีระดับนานาชาติ เพื่อเป็นการสร้างความตื่นตัวให้กับวงการเค้กน้ำตาลปั้นในบ้านเราด้วย”

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/06/24/33Lin24062019-2.JPG

ไฮไลท์ในงานครั้งนี้มีการเปิดตัวเค้กน้ำตาลปั้น ธีมเจ้าหญิงในเทพนิยายขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยความสูงกว่า 2 เมตร สร้างสรรค์โดยสุดยอดกูรูเค้กดีไซเนอร์ระดับแถวหน้าในวงการ คุณโอปอล์ ลิปปกร ปรียาภาบูลกิต ที่ร่วมกับ S&P และยังมีผลงานปั้นเค้กสุดอลังการ อาทิ ม้ายูนิคอร์น นกยูง ปราสาท จากสุดยอดศิลปินท่านอื่นๆอีกด้วย  นอกจากนี้ยังมีการสาธิตเมนูไฮไลท์ โดยเชฟเซเลบบริตี้ชื่อดัง คุณพล ตัณฑเสถียร พร้อมด้วยการเปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่เอาใจคนรักเค้กและเบเกอรี ได้แก่   Modelling Paste ผลิตภัณฑ์น้ำตาลปั้นตกแต่งเค้กสำหรับปั้นตุ๊กตารูปทรงสามมิติ และ Natural Caster Sugar น้ำตาลอ้อยธรรมชาติสำหรับเบเกอรี ซึ่งนำมาใช้ในการทำเมนูพิเศษโชว์ภายในงานด้วย

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/06/24/12Lin24062019-4.jpg

ในงานประกวด Lin Thailand Sweet Creation 2019 ยังได้จัดกิจกรรมหลากหลายด้านการทำเค้ก  มี Workshop เสริมองค์ความรู้ให้แก่ผู้ที่สนใจ และในส่วนของผู้ชนะการประกวดที่ได้รับรางวัล Best in Show ทางน้ำตาลลิน จะให้ทุนสนับสนุนในการเข้าร่วมประกวดงาน Cake International 2019  ณ ประเทศอังกฤษ เพื่อเปิดโอกาสให้เป็นตัวแทนคนไทยไปสร้างผลงานและชื่อเสียงในระดับโลก  นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้ศิลปินที่มาคว้ารางวัลจากเวทีงานประกวดของลิน ได้มีโอกาสต่อยอดในการเป็นเค้กดีไซเนอร์มืออาชีพ และกระตุ้นให้คนวงการเค้กบ้านเราเห็นถึงคุณค่าของศิลปะการทำเค้กน้ำตาลปั้น ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้กับเค้ก และช่วยต่อยอดทางธุรกิจสำหรับคนที่สนใจทำเป็นอาชีพได้ด้วย
สำหรับรายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลจากงานประกวดเค้กน้ำตาลปั้นครั้งนี้ ได้แก่

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/06/24/29Lin24062019-3.jpg

รางวัล Best in show      ชื่อผลงาน Pure’s Power
                                    โดย คุณ เดโชกุล สิงห์อำไพ

Class A : Colorful Wedding Cake
            รางวัลอันดับที่ 1              ชื่อผลงาน Combination
                                                โดย คุณ ธัญลักษณ์ ธุดี
            รางวัลอันดับที่ 2             ชื่อผลงาน Love & Respect
                                                โดย คุณ บุษราภรณ์ ครุฑผาสุก
            รางวัลอันดับที่ 3              ชื่อผลงาน พิธีแต่งงานของชาวจีน
                                                โดย คุณ เหนี่ย-ซิน (Nie Xin)

Class B : Animal Planet
          รางวัลอันดับที่ 1                ชื่อผลงาน Pure’s Power
                                                 โดย คุณ เดโชกุล สิงห์อำไพ
          รางวัลอันดับที่ 2                ชื่อผลงาน Battle of The Kings ศึกเทพอิทธิฤทธิ์พิชิตมาร
                                                 โดย คุณ พัชรี พึ่งน้ำ
           รางวัลอันดับที่ 3               ชื่อผลงาน ช่วงเวลาแห่งความสงบ
                                                 โดย คุณ เหนี่ย-ซิน (Nie Xin)

Class C : Celebration Cake (Piping Technique)
          รางวัลอันดับที่ 1                ชื่อผลงาน  Lover's concerto
                                                 โดย คุณ วรรษชล วิเศษนอก
          รางวัลอันดับที่ 2                ชื่อผลงาน Pray and hope
                                                 โดย คุณ วรรษชล วิเศษนอก
          รางวัลอันดับที่ 3                ชื่อผลงาน Happy birthday for you
                                                 โดย คุณ จุรี มนตรี

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานประกวดในครั้งนี้และกิจกรรมในครั้งต่อไป ท่านสามารถติดตามได้ที่ Facebook: Lin Sugar Sweet Creation และ www.linthailandsweetcreation.com

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/06/24/91Lin24062019-5.JPG

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/06/24/79Lin24062019-8.jpg
" 352119,"
/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/07/13/59b-2.jpg

ซันเดล โบลอง - ประเทศมาเลเซีย
วิญญาณสาวแสนสวย สุดพยาบาท!!

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/07/13/91b-3.jpg

ผู้หญิงสีเขียว - ประเทศอังกฤษ-สกอตแลนด์
เป็นวิญญาณของคนที่ถูกคนใช้ฆ่าตาย

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/07/13/58b-4.jpg
 
ชูเรล - ประเทศอินเดีย
หญิงที่ตายระหว่างการคลอดลูก หรือ 'ตายทั้งกลม'

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/07/13/58b-5.jpg

ฟุนา ยูเรย์ - ประเทศญี่ปุ่น
ผีตายโหงที่เสียชีวิตในท้องทะเล

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/07/13/38b-6.jpg
 
ลา ซาโยน่า - ประเทศเวเนซุเอลา
วิญญาณที่คอยตามแก้แค้นพวกผู้ชายที่ชอบนอกใจเมีย

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/07/13/59b-1.jpg

บุษบา - ประเทศไทย
ผีนางรำสุดพยาบาท ที่จะตามล่าคนที่ฆ่าเธอ

เมื่อบทละครที่แต่งขึ้น กำลังจะกลายเป็นเรื่องจริง...
เตรียมพบกับ ความลับ ความสะพรึง ที่จะครอบงำคุณ จนวันตาย..
#บุษบา #TheSpiritofRAMAYANA
เข้าฉาย 25 กรกฏาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

บุษบา

กำกับ :  ชัยวัฒน์ สีตลาศัย
นักแสดง : กรีน - อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล
โย่ง อาร์มแชร์ - อนุสรณ์ มณีเทศ
เจฟฟรี่ เบญจกุล
ครีม - ธิชาชา บุญเรืองขาว
หลับปุ๋ย - ฐิติกานต์ สิทธิสัมพันธ์
แพม - ปานพิมพ์ เตชะธนชัยพัฒน์

เครดิตเพจ M Pictures" 359016,"ฮักบี้บ้านบาก จากจุดเริ่มต้นระดับตำบล สู่เส้นทางระดับตำนาน มาทำความรู้จักทีมรักบี้เลือดนักสู้จากแดนอีสานทีมนี้ไปด้วยกัน

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/08/20/2168776962_689022674900701_3670569451633246208_n.jpg
1. พวกเขาคือนักเรียนโรงเรียนบ้านบาก จาก อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/08/20/8669234864_689022638234038_3791765083604910080_n.jpg
2. จุดเริ่มต้นความสำเร็จมาจาก "คุณครู สุธรรม บุญยะผลึก" ผู้เชี่ยวชาญด้านกีฬารักบี้

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/08/20/668479871_689022631567372_3480448034171518976_n.jpg
3. "ครูธงชัย เมืองจันทร์" ครูพละที่อยู่เคียงข้างและคอยฝึกสอนเด็กๆ

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/08/20/2668357320_689022834900685_1007992858315063296_n.jpg
4. น้องๆ ทุกคนต้องสู้กับอุปสรรคด้านความพร้อม แต่ไม่เคยทำให้พวกเขาย่อท้อ

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/08/20/3868435073_689022791567356_6098958997472149504_n.jpg
5. ช่วงแรกที่พวกเขาลงแข่งอาจมีแพ้บ้าง ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/08/20/8669131655_689022814900687_600477161450635264_n.jpg
6. ทีม "บ้านบาก" เรียกได้ว่าเป้นม้ามืดของวงการรักบี้เยาวชนแห่งประเทศไทย

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/08/20/3868271701_689022884900680_4018657558628663296_n.jpg
7. จากทีมที่ไม่เคยมีใครรู้จัก วันนี้พวกเขาได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว แม้ความจริงอาจจะไม่ชนะในเกม แต่พวกเขาชนะใจคนไทยทั้งประเทศมาแล้ว

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/08/20/668993428_689022944900674_6204673497134792704_n.jpg
8. พิสูจน์ความมุ่งมั่นตั้งใจของพวกเขา 29 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
 
ขอบคุณข้อมูลจาก Facebook Fanpage ฮักบี้บ้านบาn
" 363990,"
รวมพลคน “ดื้อ” มิสเตอร์ดื้อ กันท่าเหรียญทอง ภาพยนตร์ #โรแมนติกคอมมาดื้อ 18 กันยายนนี้ ในโรงภาพยนตร์

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/09/16/5767792329_2494829334084378_6541168813088440320_n.jpg
"เก้า สุภัสสรา" รับบทเป็น "หลิน"

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/09/16/8768357047_2494829324084379_6828097771199791104_n.jpg
"นน ชานน" รับบทเป็น "ดื้อ"

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/09/16/5767776850_2495553717345273_1328345878989111296_n.jpg
"โจ๊ก โซคูล" รับบทเป็น "แมน ตาหวาน"

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/09/16/1668838647_2495578290676149_2562712702401118208_n.jpg
"บลู พงศ์ทิวัตถ์" รับบทเป็น "เกมส์"

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/09/16/5767767203_2496556363911675_3277469267036995584_n.jpg
"เอิร์ธ ธวัช" รับบทเป็น "เม่น สโตร์แมน"

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/09/16/1167731046_2496555877245057_4182250943082921984_n.jpg
"แอนนา" รับบทเป็น "เล้ง ร้อนเงิน"

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/09/16/8767824938_2496556287245016_8726734548827635712_n.jpg
"พลพล" รับบทเป็น "เคี้ยง เชฟกระทะบุบ"

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/09/16/8767953116_2497676427133002_4079578959598059520_n.jpg
"เทพ" รับบทเป็น "เฮียช่างยุ"

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/09/16/1668843015_2497706837129961_4176540169882566656_n.jpg
"คิง" รับบทเป็น "สำราญ น้ำแข็งหลอด"

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/09/16/1668871707_2497807433786568_7580054507875205120_n.jpg
"ยาว" รับบทเป็น "จก ลมกรด"

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/09/16/1668881396_2496554987245146_8370999755072864256_n.jpg
"รัศมีแข" รับบทเป็น "แอนดรูว์ ขาแดนซ์"
" 366476,"มาทางนี้ มาดูพร้อมกัน!! กับคาแรกเตอร์สุดเท่ของตัวละครจากภาพยนตร์เรื่อง ขุนแผน ฟ้าฟื้น

"จุดเริ่มต้นของภารกิจ มิตรภาพ ความรัก และศัตรู"
.
พบกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปี "ขุนแผน ฟ้าฟื้น"
จากฝีมือการกำกับภาพยนตร์ของ "ก้องเกียรติ โขมศิริ"

ขุนแผนฟ้าฟื้น 10 ตุลาคมนี้ในโรงภาพยนตร์

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/09/30/3971091674_133826634649220_1545213612581191680_n.jpg
"มาริโอ้ เมาเร่อ" รับบท "แก้ว"

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/09/30/1971493797_133826707982546_8916722843778023424_n.jpg
"ฟ้า - ยงวรี งามเกษม" รับบท "พิม"

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/09/30/2169281770_133826554649228_7654516007993606144_n.jpg
"ฟิลลิปส์ - ณัทธนพล ทินโรจน์" รับบท "ช้าง"

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/09/30/3971215969_133825921315958_6451063495889780736_n.jpg
"ปราโมทย์ แสงศร" รับบท "แสนตรีเพชรกล้า"

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/09/30/6070968965_133825971315953_7566227582220238848_n.jpg
“เจด แองเจลิน่า โฟรม็องโต” รับบท “เหมรัศมีสีจันทน์”

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/09/30/4872035982_133826767982540_398624332877660160_n.jpg
“มณีชญา ธนะอารยัน” รับบท “สายทอง”

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/09/30/4872258469_133826664649217_8643461029948293120_n.jpg
"รถบัส - ภคพล ตัณฑ์พานิชย์" รับบท "มะนาว"

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/09/30/5370845461_133826734649210_5398927376023289856_n.jpg
"หรั่ง - อภิวิชท์ เรียร์ดอน" รับบท "ราม"

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/09/30/6070854994_133826577982559_8568936612853972992_n.jpg
"โจเซฟ - ศิริณัฎฐ์ อภิอันทรเดช" รับบท "เพชร"

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/09/30/3971176305_133826797982537_3110204828005957632_n.jpg
"ต๊อก - ศุภกร กิจสุวรรณ" รับบท "อาจารย์เดช"

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/09/30/1971395507_133825977982619_5334790036686635008_n.jpg
“มุงกะยอง” ลูกน้องแสนตรีเพชรกล้า

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/09/30/1971485618_133826011315949_2018176708296835072_n.jpg
มารุต เมนสารท และ สกล สงวนพัฒน์ (Ngaz&Jahman จาก YOUNGBONG) รับบท "อีกา"
" 376592,"องค์การยูนิเซฟได้ออกรายงานฉบับล่าสุดที่มีชื่อว่า The Convention on the Rights of the Child at a Crossroads ชี้ให้เห็นว่าความเป็นอยู่ของเด็ก ๆ ทั่วโลกได้รับการพัฒนาไปหลายด้าน แต่เด็กที่อยู่ในกลุ่มยากจนที่สุดอีกจำนวนมากยังคงเข้าไม่ถึงการพัฒนาที่จำเป็นต่อชีวิต

รายงานฉบับดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองการครบรอบ 30 ปีของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก โดยนำเสนอความสำเร็จที่เกิดขึ้นจำนวนมากตลอดสามทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งชี้ให้เห็นว่าความสำเร็จต่าง ๆ จะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยความมุ่งมั่นและการสนับสนุนจากผู้นำประเทศและผู้กำหนดนโยบาย

นางเฮนเรียตตา โฟร์ ผู้อำนวยการบริหาร องค์การยูนิเซฟ กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 30 ปีตั้งแต่มีการรับรองอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก เราจะเห็นว่าเด็ก ๆ ทั้วโลกต่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและมีชีวิตยืนยาวขึ้น อย่างไรก็ตาม เด็กในกลุ่มที่ยากจนและเปราะบางที่สุดยังคงเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายมากมายในชีวิต”

รายงานระบุว่าในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา อัตราการเสียชีวิตของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีลดลงถึงร้อยละ 60 ในขณะที่สัดส่วนของเด็กวัยประถมศึกษาที่ไม่ได้เข้าเรียนลดลงจากร้อยละ 18 เหลือร้อยละ 8 นอกจากนี้ หลักการพื้นฐานของอนุสัญญาฯ ซึ่งประกอบด้วย การไม่เลือกปฏิบัติ การคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ ตลอดจนสิทธิของเด็กในการมีชีวิตอยู่รอดได้รับการพัฒนา และได้รับการปกป้องและคุ้มครอง  ได้กลายเป็นรากฐานสำคัญของการกำหนดกฎหมาย นโยบาย และข้อปฏิบัติของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

สำหรับประเทศไทย ความเป็นอยู่ของเด็ก ๆ ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา ผลสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทยที่จัดทำโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2558-2559 ระบุว่า เด็กเกือบทุกคนในประเทศไทยได้รับการจดทะเบียนเกิด เด็กที่วัยประถมศึกษาถึงร้อยละ 95 ได้เข้าเรียนในระบบ แต่ความเหลื่อมล้ำอีกหลายด้านยังคงมีอยู่ โดยเด็กและเยาวชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบท ในครอบครัวยากจน ยังคงล้าหลังทั้งในด้านสุขภาพ การศึกษา และพัฒนาการโดยรวมเมื่อเทียบกับเด็กกลุ่มอื่น ๆ

ยกตัวอย่างเช่น ยังมีเด็กในประเทศไทยถึงร้อยละ 22 ที่ต้องเผชิญกับความยากจนในหลายมิติ ซึ่งอัตราดังกล่าวสูงสุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปีในจังหวัดชายแดนใต้กำลังเผชิญกับภาวะแคระแกร็นในอัตราที่สูงกว่าอัตราเฉลี่ยของประเทศมาก อีกทั้งยังมีเด็กข้ามชาติอีกจำนวนมากที่ไม่ได้เข้าเรียน ซึ่งถือเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดของเด็กที่ไม่ได้เข้าเรียนทั้งหมด

เมื่อไม่นานมานี้ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทยได้ปล่อยวิดีโอสั้น http://bit.ly/crc30th เพื่อสร้างความตระหนักในสิทธิในการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนต่อประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของพวกเขา พร้อมกระตุ้นให้ผู้ใหญ่หันมารับฟังเสียงของเด็กและเยาวชนให้มากขึ้น และสนับสนุนให้พวกเขาร่วมเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง โดยไม่ย่อท้อต่อภารกิจต่าง ๆ ที่ตั้งใจทำ

นายปีเตอร์ โฟรเบล รักษาการผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “นี่คือโอกาสสำคัญที่เราต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังเพื่อให้เด็กทุกคนสามารถพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพที่สุด และไม่มีเด็กคนใดถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ตอนนี้เด็ก ๆ และเยาวชนทั่วโลกต่างกำลังลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสิทธิของพวกเขา เราจะเห็นการเรียกร้องให้การปรับปรุงระบบการศึกษา การรณรงค์ให้ยุติการเลือกปฏิบัติ การรณรงค์ยุติความรุนแรงในโรงเรียน การต่อสู้เรื่องสิ่งแวดล้อม การปฏิรูปทางดิจิทัลและเรียกร้องให้ผู้นำใส่ใจในอนาคตของพวกเขา ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่า เราทุกคนจำเป็นที่จะต้องสนับสนุนและทำงานร่วมกับเด็กและเยาวชนในการสร้างความเปลี่ยนแปลง และแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่กำลังคุกคามความเป็นอยู่ของพวกเขา”

รายงานฉบับนี้ยังเผยให้เห็นอุปสรรคทั้งเก่าและใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตเด็ก ๆ ทั่วโลก เช่น ความยากจน การเลือกปฏิบัติ การถูกแบ่งแยก สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตลอดจนการกลับมาระบาดของโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนเช่น โรคหัดเยอรมัน นอกจากนี้ จำนวนเด็กที่ไม่ได้เข้าเรียนและผลการเรียนรู้ในโรงเรียนยังคงเป็นประเด็นที่สำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไข

เพื่อจัดการกับความท้าทายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น รายงานฉบับนี้เสนอว่า ควรมีการจัดทำข้อมูล สถิติและการวิเคราะห์ปัญหาต่างๆ มากขึ้น อีกทั้งยังควรเพิ่มทรัพยากร และส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนการเพื่อแก้ปัญหามากขึ้น นอกจากนี้ การวางแผนการทำงานยังควรยึดหลักการพื้นฐานของความเท่าเทียม พร้อมกับเสาะหาวิธีการใหม่ ๆ ในการจัดการกับอุปสรรค และเตรียมพร้อมสู่โอกาสที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยยึดหลักการของสิทธิเด็กเป็นสำคัญ

ยูนิเซฟจะจัดการประชุมระดับโลกในอีก 12 เดือนข้างหน้าเพื่อกำหนดแนวทางที่ทำให้สิ่งต่าง ๆ ที่ระบุอยู่ในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กเกิดขึ้นจริงสำหรับเด็กทุกคน โดยการประชุมนี้จะเน้นการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย ทั้งเด็กและเยาวชน ผู้ปกครอง หน่วยงานการศึกษา นักพัฒนาสังคมและชุมชน ภาคการเมือง ภาคประชาชน นักวิชาการ ภาคเอกชน ตลอดจนสื่อมวลชน ที่จะกลายมาเป็นกระบวนการสำคัญในการทำงานขององค์กรในอนาคตต่อไป

อ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ https://uni.cf/CRC-media

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก สามารถเข้าไปดูได้ที่ https://www.unicef.org/child-rights-convention

ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย
ณัฐฐา กีนะพันธ์ 086 616 7555 หรือ nkeenapan@unicef.org หรือ วรวุฒิ ชูมณี 093 442 8289 หรือ wchumanee@unicef.org

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/11/20/23CRC-30_1.jpg
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กได้รับการรับรองในวันที่ 20 พ.ย. 2532  ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ
โดยหลังพิธี ออเดรย์ เฮปเบิร์น ทูตสันถวไมตรี องค์การยูนิเซฟ ตัวแทนนักเรียนลูกเสือ
และผู้บริหารยูนิเซฟในขณะนั้น ร่วมต่อสายไปหาเด็ก ๆ ที่อยู่ในสำนักงานต่าง ๆ
ของสหประชาชาติในกรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อแจ้งข่าวดังกล่าว © UNICEF/1989/John Isaac


/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/11/20/58CRC-30_2.jpg
หลังจากที่มีการรับรองอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ตัวแทนเด็กจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้รวมตัวกันที่บริเวณสำนักงานใหญ่สหประชาชาติ
จัดเวทีพูดคุยกลางแจ้งในวันที่ 26 ก.ย. 2533 เพื่อฉลองการประชุมสุดยอดเพื่อเด็กโลก (World Summit for Children) © UNICEF/1990/Barbour


/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/11/20/38CRC-30_3.jpg
องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ได้จัดเวทีสิทธิเด็กและพิธีประกาศเจตนารมณ์ยุติความรุนแรงต่อเด็กในปี พ.ศ. 2560
เนื่องในวันสิทธิเด็กสากล ณ รัฐสภา © UNICEF/2017/Sukhum


/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/11/20/17CRC-30_4.jpg
ตัวแทนเด็กและเยาวชนกว่า 200 คน จากสภาเด็ก และเครือข่ายเยาวชนจากทั่วประเทศเข้าร่วมประชุมเวทีสิทธิเด็ก
และพิธีประกาศเจตนารมณ์ยุติความรุนแรงต่อเด็กในปี พ.ศ. 2560 © UNICEF/2017/Sukhum
" 376601,"องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย เปิดตัวโครงการ “Dare to Dream : ปลุกพลังฝัน เปลี่ยนอนาคต” ครั้งแรกกับการเปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้ใช้สิทธิแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเรียนการสอนด้านทักษะที่เป็นประโยชน์ต่อการเตรียมความพร้อมสู่อนาคต ผ่านโพลสำรวจออนไลน์ทางลิงค์ www.unicef.or.th/d2d ที่จะรวบรวมความคิดเห็นและข้อมูลเชิงลึกจากเสียงเยาวชน เพื่อยกระดับหลักสูตรด้านทักษะต่าง ๆ และปรับปรุงกรอบทักษะและวิธีการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความต้องการและความสามารถของเด็ก นอกจากนี้ ยูนิเซฟยังเตรียมจัดงาน “Dare to Dream Fest” ในวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2562 ณ ลิโด้ คอนเน็คท์ (Lido Connect) โดยมีผู้นำการเปลี่ยนแปลงจากหลายสาขา รวมถึงเซเลบริตี้ อินฟลูเอ็นเซอร์ และศิลปินชื่อดัง อาทิ “พีช” พชร จิราธิวัฒน์, “เบลล์” เขมิศรา พลเดช, “Softpomz” โศภิษฐ์สกร โชติธนฤทธิ์, “ดีเจฟ้าใส” ฐิติรัตน์ อินเทพ, “IRONBOY” ศิริศักดิ์ เลขวัฒนะโรจน์, “ม๊าเดี่ยว” อภิเชษฐ์ เอติรัตนะ จะมารวมตัวกันเป็นกระบอกเสียงครั้งสำคัญ ให้เสียงของเด็กและเยาวชนได้ส่งต่อถึงผู้ใหญ่ได้มากที่สุด สอดคล้องกับการส่งเสริมสิทธิในการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน ตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention of the Rights of the Child) ซึ่งจะครบรอบ 30 ปี ในวันพรุ่งนี้

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/11/20/47d2d.jpg

นายปีเตอร์ โฟรเบล รักษาการผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “ทุกวันนี้ตลาดแรงงานโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก และมีอาชีพใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ เด็กและเยาวชนของเราต้องมีความรู้และทักษะที่เท่าทันในการใช้ชีวิตและการขับเคลื่อนสังคมในอนาคต สิ่งที่เราต้องทำในวันนี้ คือ การช่วยให้เด็กและเยาวชนมีความสามารถในการเรียนรู้ ปรับตัว และพัฒนาทักษะต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์กับโลกอนาคต ซึ่งเราจะไม่ประสบความสำเร็จเลยถ้าเราไม่เปิดพื้นที่ให้เด็ก ๆ และเยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้”

แคมเปญในครั้งนี้เปิดตัวด้วยวิดีโอที่ได้ตัวแทนคนรุ่นใหม่อย่าง พีช-พชร จิราธิวัฒน์ Friend of UNICEF และ แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล ศิลปินชื่อดังจากวง Got7 ซึ่งมาร่วมกระตุ้นให้เด็กและเยาวชนเดินตามความฝัน และเข้ามาแชร์สิ่งที่วัยรุ่นอยากเรียนอยากรู้ และสิ่งที่อยากให้โรงเรียนสอนเพื่อช่วยให้พวกเขามีทักษะที่จำเป็นผ่านโพลสำรวจ www.unicef.or.th/d2d   โดยยูนิเซฟจะรวบรวมความคิดเห็นต่าง ๆ ของเยาวชน เพื่อนำไปเป็นข้อมูลยกระดับการพัฒนากรอบทักษะแห่งชาติ ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่างองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ และพันธมิตร

โครงการ Dare to Dream : ปลุกพลังฝัน เปลี่ยนอนาคต ยังได้ชวนวัยรุ่นไทยมาร่วมอัดคลิปวิดีโอโยนแปรงเพื่อสื่อถึงการเปลี่ยนแปลงพร้อมใช้แฮชแท็ก #เปลี่ยนแปรงหน่อยป่ะล่ะ #ChangebrushChallenge #DaretoDream เป็นสื่อกลาง  อีกทั้งยังพร้อมปลุกกระแสโซเซียล ผ่านวิดีโอโชว์สปิริตของตัวแทนเสียงวัยรุ่น 3 เรื่องที่บอกเล่าความรู้สึกของการลุกขึ้นมาทำตามความฝัน ได้แก่

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/11/20/3920-11-2019_17-02-36.jpg
วิดีโอตัวแรก - DJ: เมื่อความฝันกับความจริงเป็นเรื่องที่ทับซ้อนกันอยู่ แล้วทำไมเราจะทำความฝันให้เป็นจริงไม่ได้ล่ะ http://bit.ly/D2DV01

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/11/20/7220-11-2019_17-05-04.jpg
วิดีโอตัวที่ 2 The Maker: กล้าคิดแล้ว ก็ต้องกล้าลงมือทำด้วย เพราะอนาคตจะเป็นอย่างไร อยู่ที่เราเลือกเอง  http://bit.ly/D2DV02

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/11/20/4720-11-2019_17-06-13.jpg
วิดีโอตัวที่3 - Vlogger: เห็นโอกาสอยู่ข้างหน้า ทำไมไม่คว้าไว้ล่ะ อย่าปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป http://bit.ly/D2DV03

พร้อมกันนี้ ยูนิเซฟยังเชิญชวนเยาวชน นักเรียนและนักศึกษาทั่วประเทศ เข้าร่วมงาน “Dare to Dream Fest” ที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2562 ณ ลิโด้ คอนเน็คท์ (Lido Connect) ภายในงานจะมีกิจกรรม 4 โซนหลัก ได้แก่ 1) Dare to be Heard “พูดให้ดัง ฟังเราให้ชัด” – เวทีทอล์กโชว์ของนักพูดเยาวชนที่ยกแก๊งมาแชร์ประสบการณ์พัฒนาทักษะและการเรียนรู้เพื่อวิ่งตามความฝัน 2) “Dare to Unlock: ขอถามเจาะใจรุ่นพี่” ที่เปิดโอกาสให้ยิงคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเส้นทางอาชีพต่าง ๆ กับรุ่นพี่ผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขา 3) “Dare to Imagine” ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนได้ร่วมนำเสนอแนวทางการเรียนการสอนด้านทักษะแบบใหม่ และ 4) โซนนิทรรศการและมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง อาทิ IRONBOY, วง PILLS, และ DJ FAHSAI

อย่ารอช้า! รีบเข้ามาตอบโพลเพื่อจองที่นั่งในงานได้ที่ www.unicef.or.th/d2d แล้วมาพบกันที่งานได้ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00น.

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ UNICEF Dare to Dream Thailand สามารถเข้าไปที่ www.unicef.or.th/daretodream
ร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเรียนรู้เรื่องทักษะได้ที่ www.unicef.or.th/d2d

เกี่ยวกับยูนิเซฟ:
องค์การยูนิเซฟ ได้เริ่มให้ความช่วยเหลือเด็กในประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2491 ปัจจุบันยูนิเซฟเป็นผู้สนับสนุนวัคซีนให้แก่เด็กรายใหญ่ที่สุดของโลก และกำลังปฏิบัติงานในกว่า 190 ประเทศและเขตปกครองต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อให้ความช่วยเหลือเด็กในด้านต่าง ๆ เช่น สุขภาพ โภชนาการ การศึกษา ระบบน้ำและสุขาภิบาล การคุ้มครองเด็กจากความรุนแรง การถูกทำร้ายและการถูกแสวงประโยชน์ และเอชไอวี/เอดส์ เงินทุนทั้งหมดของยูนิเซฟได้มาจากการบริจาคจากบุคคลทั่วไป ภาคธุรกิจ องค์กรต่าง ๆ และรัฐบาล

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย
ณัฐฐา กีนะพันธ์ 086 616 7555 หรือ nkeenapan@unicef.org
วรวุฒิ ชูมณี 093 442 8289 หรือ wchumanee@unicef.org" 378047,"องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย จัดทำ ตุ๊กตาหมี Teddy Blue (เท็ดดี้ บลู) สัญลักษณ์ประจำรายการ “เดอะ บลู คาร์เพท โชว์ ฟอร์ ยูนิเซฟ” เพื่อให้ผู้สนับสนุนและประชาชนทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของได้ โดยตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ บลู จะมีลักษณะพิเศษคือ มีจมูกสีฟ้า เพื่อสื่อสารว่าหากเด็ก ๆ ได้รับอันตรายหรือเผชิญกับความเดือดร้อนใด ๆ จมูกสีฟ้าของพี่หมีเท็ดดี้ บลู จะเปล่งแสงรับสัญญาณ เพื่อส่งความช่วยเหลือไปถึงเด็ก ๆ อย่างเร็วที่สุด ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติใดหรืออยู่ห่างไกลแค่ไหนก็ตาม เปรียบเสมือนการทำงานของ “ยูนิเซฟ” ที่พร้อมจะเข้าไปช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่กำลังเดือดร้อนในทุกพื้นที่โดยไม่เลือกปฏิบัติ

โดยในปีนี้ “ยูนิเซฟ” ได้รับเกียรติจากเหล่าเซเลบคนดังมาร่วมออกแบบ Teddy Blue Limited Edition  (เท็ดดี้ บลู ลิมิเต็ด อิดิชัน) 5 คอลเลคชันพิเศษ ประกอบด้วย BAMBAM x UNICEF (ออกแบบโดย แบมแบม GOT7), PECK x UNICEF (ออกแบบโดย เป๊ก ผลิตโชค) , KRIST SINGTO x UNICEF (ออกแบบโดย คริส พีรวัส และ สิงโต ปราชญา) , NADAO x UNICEF (ออกแบบโดย ต่อ ธนภพ) และ GG PP x UNICEF (ออกแบบโดย กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ และน้องเป่าเปา) โดยผู้ที่สนใจสามารถสนับสนุนได้ตัวละ 2,990 บาท ทุกคอลเลคชั่นจะผลิตรวมกันเพียง 1,000 ตัวเท่านั้น รายได้ทั้งหมดจะนำไปสมทบทุนในรายการ “เดอะ บลู คาร์เพท โชว์ ฟอร์ ยูนิเซฟ ครั้งที่ 2” ที่จะจัดขึ้นในเดือนมกราคม 2563 เพื่อสนับสนุนงานของยูนิเซฟในการช่วยเหลือเด็ก ๆ ในประเทศไทยและทั่วโลกต่อไป

แฟน ๆ ที่สนใจสามารถเป็นเจ้าของ เท็ดดี้ บลู ลิมิเต็ด อิดิชัน จำนวน 100 ตัวแรก (คอลเลคชั่นละ 20 ตัว) ได้ก่อนใครในงานแถลงข่าวรายการ “เดอะ บลู คาร์เพท โชว์ฯ ครั้งที่ 2” ที่จะจัดขึ้นในวันพุธที่ 11 ธันวาคม 2562 ณ ลานอีเดน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยเขียนชื่อตนเองและหย่อนลงในกล่องคอลเลคชั่นที่ต้องการระหว่างเวลา 12.00 – 15.30 น. (ท่านละ 1 ชื่อเท่านั้น) และจะมีการสุ่มรายชื่อผู้โชคดี 100 ท่าน ในเวลา 16.00 น. เพื่อมีสิทธิ์สนับสนุนตุ๊กตาหมี Teddy Blu Limited Edition (เท็ดดี้ บลู ลิมิเต็ด อิดิชัน) ตัวละ 2,990 บาทในงานแถลงข่าว

สำหรับตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ บลู อีก 900 ตัวที่เหลือ จะเปิดให้เป็นเจ้าของผ่านเว็บไซต์ www.unicef.or.th/bluecarpetshow เท่านั้น โดยมีรายละเอียดดังนี้  BAMBAM x UNICEF จะเปิดในวันที่ 12 ธ.ค. 62 , GG PP x UNICEF ในวันที่ 15 ธ.ค. 62 , KRIST SINGTO x UNICEF ในวันที่ 18 ธ.ค. 62 , NADAO x UNICEF ในวันที่ 21 ธ.ค. 62 และ PECK x UNICEF ในวันที่ 24 ธ.ค. 62 ตั้งแต่เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป  ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง เฟซบุ๊ก แฟนเพจ UNICEF Thailand

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย
ณัฐฐา กีนะพันธ์ 086 616 7555 หรือ nkeenapan@unicef.org
วรวุฒิ ชูมณี 093 442 8289 wchumanee@unicef.org

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/11/27/21GF7A4476.jpg
PECK x UNICEF (ออกแบบโดย เป๊ก ผลิตโชค)

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/11/27/94GF7A3770.jpg
BAMBAM x UNICEF (ออกแบบโดย แบมแบม GOT7)

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/11/27/26GF7A3775.jpg
NADAO x UNICEF (ออกแบบโดย ต่อ ธนภพ)

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/11/27/31S_47259766.jpg
KRIST SINGTO x UNICEF (ออกแบบโดย คริส พีรวัส และ สิงโต ปราชญา)

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/11/27/1GG_PP1_copy.jpg
GG PP x UNICEF (ออกแบบโดย กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ และน้องเป่าเปา)
" 379252,"หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งยอดผู้ชมและกระแสตอบรับที่มีต่อรายการ อีกทั้งยังสามารถทำยอดบริจาคจากผู้ชมทั่วประเทศได้สูงถึง 15 ล้านบาท สำหรับรายการ เดอะ บลู คาร์เพท โชว์ ฟอร์ ยูนิเซฟ ครั้งที่ 1 ที่จัดขึ้นในเดือนธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา  ด้วยรูปแบบรายการที่โดดเด่นเป็นรายการโทรทัศน์วาไรตี้แนวใหม่ อัดแน่นไปด้วยสาระและความบันเทิงที่หลากหลายตลอด 100 นาทีเต็ม อีกทั้งยังสามารถรวบรวมศิลปิน ดารา นักร้องชั้นนำของไทยและเอเชียไว้มากที่สุดกว่า 40 ชีวิตอีกด้วย

ล่าสุด องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย เตรียมจัดงานแถลงข่าวการกลับมาอีกครั้งของรายการ  “เดอะ บลู คาร์เพท โชว์ ฟอร์ ยูนิเซฟ ครั้งที่ 2”  โดยในปีนี้ยังได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากเหล่าศิลปินใจบุญที่จะมาร่วมงานแถลงข่าวกันอย่างคับคั่ง นำทีมโดย แบมแบม GOT7 , ใหม่ – ดาวิกา Friend of UNICEF , คริส – พีรวัส นักแสดงหนุ่มสุดฮอตจาก GMMTV, ฌอห์ณ จินดาโชติ นักแสดงมากความสามารถ , ตุ๊ยตุ่ย – พุทธชาติ พิธีกรชื่อดัง , เอส กันตพงศ์ นักแสดงจากช่อง 7HD รวมถึงนักแสดงวัยรุ่นชื่อดังจากนาดาว บางกอก อาทิ แพรวา – ณิชาภัทร , นาน่า – ศวรรยา , แพรว – นฤภรกมล , จูเนียร์ – ปณชัย , อ๊อม – กณิศ , โรเล็กซ์ – จิรายุส และ ริว – อิงครัต ฯลฯ  มาติดตามและร่วมลุ้นไปพร้อมกันว่า พวกเขาเหล่านี้จะมีภารกิจพิเศษร่วมกับ “ยูนิเซฟ” ให้แฟน ๆ ได้รอติดตามกันใน วันพุธที่ 11 ธันวาคม 2562 เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป  ณ ลานอีเดน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

สำหรับแฟน ๆ ที่สนใจอยากเป็นเจ้าของฮีโร่หมีจมูกสีฟ้า Teddy Blu Limited Edition (เท็ดดี้ บลู ลิมิเต็ด อิดิชั่น) ทั้ง 5 คอลเลคชั่นพิเศษ ทั้ง BAMBAM x UNICEF (ออกแบบโดย แบมแบม GOT7), GG PP x UNICEF (ออกแบบโดย กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ และน้องเป่าเปา), KRIST SINGTO x UNICEF (ออกแบบโดย คริส พีรวัส และ สิงโต ปราชญา), NADAO x UNICEF (ออกแบบโดย ต่อ ธนภพ)  และ PECK x UNICEF (ออกแบบโดย เป๊ก ผลิตโชค) จำนวน 100 ตัวแรกก่อนใครในโลก  สามารถเขียนชื่อตนเองและหย่อนลงในกล่องคอลเลคชันที่ต้องการได้ในงานแถลงข่าวระหว่างเวลา 12.00 – 15.30 น. (ท่านละ 1 ชื่อ) และจะมีการสุ่มรายชื่อผู้โชคดี 100 ท่าน เพื่อมีสิทธิ์สนับสนุนตุ๊กตาหมี Teddy Blu Limited Edition ตัวละ 2,990 บาท ในเวลา 16.00 น. สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเฟซบุ๊ก แฟนเพจ UNICEF Thailand

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย
ณัฐฐา กีนะพันธ์ 086 616 7555 หรือ nkeenapan@unicef.org
วรวุฒิ ชูมณี 093 442 8289 wchumanee@unicef.org

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/12/03/11UNICEF_Bambam.jpg
แบมแบม GOT7


/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/12/03/94UNICEF_Davika.jpg
ใหม่ ดาวิกา
" 381121,"ช่อง 7HD โดย ดร.เยาวลักษณ์ พูลทอง กรรมการผู้จัดการ ร่วมงานแถลงข่าว The Blue Carpet for UNICEF และรับประกาศนียบัตร จากคุณอานันท์ ปันยารชุน ทูตสันถวไมตรี องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ที่ได้ร่วมสนับสนุนพันธกิจอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2  เพื่อช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เด็ก ๆ ทั่วโลกกำลังเผชิญ 

โดยในงานเดียวกันนี้ได้ให้เหล่าศิลปินดารา ได้แก่ ใหม่-ดาวิกา ตุ๊ยตุ่ย-พุทธชาด ฌอห์ณ จินดาโชติ บอกเล่าถึงประสบการณ์การเดินทางไปถ่ายทำหนังสั้นกับยูนิเซฟ รวมทั้งชวนศิลปินสุดฮอต แบมแบม GOT7 คริส-พีรวัส และแพรวา-ณิชาภัทร ร่วมเผยถึงการร่วมออกแบบ Teddy Blu Limited Edition และเชิญชวนให้ร่วมเป็นเจ้าของเจ้าหมีน้อย ปิดท้ายด้วยชวนติดตามชมการถ่ายทอดสดงาน The Blue Carpet for UNICEF ในวันที่ 11 มกราคม 2563 เวลา 18.20-20.00 น. ถ่ายทอดสดผ่านหน้าจอ ช่อง 7HD

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/12/12/13UNICEF2019-12.jpg

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/12/12/51UNICEF2019-22.jpg

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/12/12/13UNICEF2019-13.jpg

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/12/12/4UNICEF2019-2.jpg

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/12/12/3UNICEF2019-3.jpg

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/12/12/3UNICEF2019-4.jpg

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/12/12/3UNICEF2019-5.jpg

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/12/12/71UNICEF2019-19.jpg

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2019/12/12/71UNICEF2019-20.jpg
" 385796,"ได้ชื่อว่าเป็นศิลปินดาราที่ทำงานเพื่อสังคมให้เห็นอย่างต่อเนื่องอยู่เสมอ สำหรับ “นิชคุณ หรเวชกุล” ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่ทำงานช่วยเหลือเด็ก ๆ  ร่วมกับ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ในฐานะ Friend of UNICEF มาตลอด 6 ปีเต็ม ล่าสุด “นิชคุณ” เตรียมบินลัดฟ้าจากประเทศเกาหลีมาร่วมรายการพิเศษ  “เดอะ บลู คาร์เพท โชว์ ฟอร์ ยูนิเซฟ ครั้งที่ 2”  ที่จะถ่ายทอดสดในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 ทางช่อง 7HD เวลา 18.20 – 20.00 น. และขอเป็นตัวแทนศิลปินดาราเชิญชวนแฟน ๆ  ให้รอชมรายการ

โดย “นิชคุณ” เผยว่า “ปีนี้จะเป็นครั้งที่ 2 ที่ผมจะได้เป็นส่วนหนึ่งในรายการ เดอะ บลู คาร์เพท โชว์ ฟอร์ ยูนิเซฟ ซึ่งปีนี้รายการจะตรงกับวันเด็กแห่งชาติ ผมรู้สึกดีใจมากที่ผมและเพื่อน ๆ ศิลปินจะได้ร่วมกันเป็นกระบอกเสียงส่งผ่านเรื่องราวความเดือดร้อนที่เด็ก ๆ ทั่วโลกกำลังเผชิญไปให้ผู้ชมได้รับทราบ และมาร่วมกันช่วยเหลือพวกเขาให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ปีนี้ผมได้เตรียมโชว์พิเศษมาฝากแฟน ๆ อีกด้วย แต่จะเป็นอะไรนั้นอยากให้รอชมในรายการครับ  นอกจากนั้นยังจะได้พบกับศิลปินอีกมากมาย อาทิ แบมแบม GOT7, เป๊กกี้ ศรีธัญญา, นิว – จิ๋ว, นนท์ ธนนท์ ฯลฯ และจะเป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้ชมหนังสั้น 4 เรื่องจาก ใหม่ ดาวิกา, ฌอห์ณ จินดาโชติ, เอส กันตพงศ์ และ อาตุ๊ยตุ่ย พุทธชาติ ที่ได้ไปลงพื้นที่เพื่อถ่ายทอดปัญหาและความยากลำบากของเด็ก ๆ จากหลายมุมของโลกอีกด้วย  ส่วนไฮไลท์ที่ทุกคนพูดถึงมากที่สุดในปีที่แล้ว คือ การเซอร์ไพรส์จากศิลปินดาราที่โทรไปขอบคุณผู้บริจาคนั้น ในครั้งนี้ก็จะยังคงมีอยู่แน่นอน ไม่แน่นะครับ ผมอาจจะเป็นคนที่โทรไปเพื่อขอบคุณคุณด้วยตัวเองก็ได้”

ภายในงานยังมีเหล่าคนบันเทิงกว่า 40 คนจากทุกสังกัด ที่ตอบรับมาร่วมเดินพรมฟ้าอีกมากมาย อาทิ นักแสดงจากช่อง 7HD เช่น มิกค์ ทองระย้า, ฐิสา วริฏฐิสา, มุก มุกดา, เข้ม หัสวีร์, ยูโร ยศวรรธน์, เปรี้ยว   ทัศนียา ฯลฯ  พอลล่า เทย์เลอร์ บัทเทอร์รี่ และ หนูดี วนิษา Friends of UNICEF  รวมถึงนักแสดงวัยรุ่นชื่อดัง อาทิ  เต๋อ ฉันทวิชช์, เจเจ กฤษณภูมิ, แพรวา ณิชาภัทร, แพต ชญานิษฐ์, พีพี กฤษฏ์, บิวกิ้น พุฒิพงศ์, ลี ฐานัฐพ์, นิว ฐิติภูมิ, เต ตะวัน, ออฟ จุมพล ฯลฯ

ติดตามชม รายการ เดอะ บลู คาร์เพท โชว์ ฟอร์ ยูนิเซฟ ครั้งที่ 2 และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น คืนรอยยิ้ม และสร้างอนาคตที่ดีให้กับเด็ก ๆ ทั่วโลกได้อย่างเท่าเทียม ในวันเด็ก เสาร์ที่ 11 ธันวาคม 2562 ทางช่อง 7HD เวลา 18.20 – 20.00 น.

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/01/04/89Nichkhun-Friend-of-UNICEF.jpg
นิชคุณ หรเวชกุล
" 391465,"องค์การยูนิเซฟได้จัดส่งหน้ากากอนามัยและชุดป้องกันการติดเชื้อสาหรับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขไปยังประเทศจีน เพื่อช่วยรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCoV) โดยสิ่งของต่าง ๆ ซึ่งมีน้ำหนักกว่า 6 ตัน ไปถึงยังนครเซี่ยงไฮ้แล้วเมื่อวานนี้

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/01/30/77UNICEF_01_high_res.jpg

สิ่งของจำเป็นต่าง ๆ เหล่านี้ ได้ถูกจัดส่งจากคลังสิ่งของบรรเทาทุกข์ของยูนิเซฟที่กรุงโคเปนเฮเกน เพื่อจะส่งไปยังเมืองอู่ฮั่นต่อไป โดยยูนิเซฟจะทยอยขนส่งสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกในสัปดาห์นี้และสัปดาห์ต่อ ๆ ไป

 
/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/01/30/92UNICEF_02_high_res.jpg

นางเฮนเรียตตา โฟร์ ผู้อำนวยการบริหาร องค์การยูนิเซฟ กล่าวว่า “ขณะนี้ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว สิ่งสำคัญเร่งด่วนตอนนี้ คือการระดมสิ่งของและทรัพยากรต่าง ๆ ที่จำเป็นเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด แม้ขณะนี้เรายังมีข้อมูลไม่เพียงพอด้านจำนวนเด็กที่ติดเชื้อและผลกระทบต่อเด็ก แต่การป้องกันและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญในตอนนี้ เพราะเรารอไม่ได้”

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/01/30/100UNICEF_03_high_res.jpg

ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่แล้วกว่า 6,000 ราย และกาลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน โดยมีรายงานว่ามีเด็กติดเชื้อด้วย ซึ่งยูนิเซฟกำลังทำงานร่วมกับรัฐบาลจีนอย่างใกล้ชิด ทั้งกระทรวงพาณิชย์และคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ รวมถึงองค์การอนามัยโลก และหน่วยงานอื่น ๆ ของสหประชาชาติ เพื่อติดตามสถานการณ์และประเมินความต้องการสาหรับการรับมือกับแพร่ระบาดครั้งนี้

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/01/30/10UNICEF_04_high_res.jpg

เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สามารถติดต่อได้จากการสัมผัสโดยตรงกับตัวผู้ป่วย การสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น การไอหรือจาม หรือการแตะต้องพื้นผิวใด ๆ ที่มีเชื้อไวรัสปนเปื้อน อาการของผู้ที่ได้รับเชื้อจะมีไข้สูง ไอ หายใจติดขัดและหายใจลำบาก ในกรณีที่รุนแรง การติดเชื้ออาจนำไปสู่โรคปอดอักเสบ โรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง ภาวะไตวาย และอาจถึงขั้นเสียชีวิต

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/01/30/15UNICEF_05_high_res.jpg

คำแนะนำสาหรับประชาชน เพื่อป้องกันตนเองจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่
▪ ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้า หรือเจลล้างมือแอลกอฮอล์
▪ ปิดปากและจมูกขณะไอหรือจาม
▪ หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีไข้และมีอาการไอ
▪ รีบไปโรงพยาบาลเมื่อมีไข้ ไอ และหายใจลำบาก และแจ้งประวัติการเดินทางที่ผ่านมากับเจ้าหน้าที่
▪ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์หรือพื้นผิวที่การสัมผัสโดยตรงกับสัตว์โดยไม่ป้องกัน" 391962,"เคยตั้งคำถามกับตัวเองไหม ว่าทำไมเราถึง ‘โสด’ บางคนโสดเพราะขี้บ่น บางคนโสดเพราะเจ้าชู้ บางคนโสดเพราะไม่แมส แต่กับ หลิน (พลอย พลอยไพลิน ตั้งประภาพร) เธอโสดเพราะ “เห็นผี”

เมื่อหัวใจโดนเทก็เลยเซไปหาทางเยียวยา…

“เริ่มที่ไหนจบที่นั่น” นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ “หลิน” ขอลุยเดี่ยวจัดทริปรักษาแผลใจ ณ กิ่วแม่ปาน จนได้เจอกับ “พุธ” (มาริโอ้ เมาเร่อ) นักเขียนบทไอเดียตัน ที่ทั้งรักคุด-งานสะดุดจนต้องออกมาหาแรงบันดาลใจเพื่อโปรเจกต์หนังผีเรื่องใหม่ของเขา ที่จำเป็นต้องใช้ “คนเห็นผี” มาช่วย
การผจญภัยในช่วงชีวิตโลว์ ๆ ของทั้งสองจึงเริ่มขึ้น กลางบรรยากาศหุบเขาในโฮมสเตย์รวมพลคน “เพิ่งโสด” แบบไม่ได้นัดหมาย ทั้ง นุ่น (ศกลรัตน์ วรอุไร), วิทยา (ณฉัตร จันทพันธ์), พี่อ้อม (ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์), พี่โอม (อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ) ที่พวกเขาจะขอมาเปลี่ยนช่วงฤดูโลว์ให้กลายเป็นฤดูเรา จะเปลี่ยนความเศร้าให้กลายเป็นความรัก...เตรียมกระเป๋าให้พร้อมแล้วออกเดินทางไปพัก (ใจ) ด้วยกัน

Low Season สุขสันต์วันโสด 13 กุมภาพันธ์ นี้ ในโรงภาพยนตร์

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/02/02/924E5A0244.jpg
Low Season สุขสันต์วันโสด

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/02/02/924E5A0111.jpg
Low Season สุขสันต์วันโสด

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/02/02/844E5A0422.jpg
Low Season สุขสันต์วันโสด

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/02/02/634E5A0822.jpg
Low Season สุขสันต์วันโสด

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/02/02/634E5A1387-2.jpg
Low Season สุขสันต์วันโสด

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/02/02/924E5A3861.jpg
Low Season สุขสันต์วันโสด

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/02/02/924E5A4263.jpg
Low Season สุขสันต์วันโสด

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/02/02/92DSCF3338.jpg
Low Season สุขสันต์วันโสด

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/02/02/22Low_Season_สุขสันต์วันโสด_เรื่องย่อ_3.jpg
Low Season สุขสันต์วันโสด

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/02/02/22Low_Season_สุขสันต์วันโสด_เรื่องย่อ_4.jpg
Low Season สุขสันต์วันโสด

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/02/02/22Low_Season_สุขสันต์วันโสด_เรื่องย่อ_5.jpg
Low Season สุขสันต์วันโสด

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/02/02/51Mario.jpg
Low Season สุขสันต์วันโสด
" 391963,"เมื่อพลอย พลอยไพลิน และ มาริโอ้ เมาเร่อ ต้องมาเจอกับ 7 คำถาม ที่มาพร้อมคำใบ้ปริศนาจากกองถ่าย Low Season สุขสันต์วันโสด

แบบนี้ความสนุกสนานจึงเกิดขึ้น แต่จะมากขนาดไหนนั้น คลิกไปดูเลยตอนนี้
แล้วไปพบกันกับภาพยนตร์ Low Season สุขสันต์วันโสด 13 กุมภานี้ที่โรงภาพยนตร์

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/02/02/91Low_Season_Poster_1_Online.jpg
Low Season สุขสันต์วันโสด

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/02/02/5Low_Season_Poster_2_Online.jpg
Low Season สุขสันต์วันโสด

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/02/02/60Low_Season_Poster_3_Online.jpg
Low Season สุขสันต์วันโสด
" 391965,"ตำนาน “สึก” ใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น...ไม่ใช่ตำนานเดิมที่คุณรู้จัก แต่เป็นตำนานที่ใครคิดจะสึก...ต้องตาย! เตรียมเปิด “สึก” กับมหากาพย์ความสยองครั้งใหม่ ใน “พี่นาค2”

20 กุมภาพันธ์นี้  เปิด "สึก" ในโรงภาพยนตร์

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/02/02/25peenak2-poster1.jpg
" 398879,"การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเกิดพายุฤดูร้อน ซึ่งจะทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมแรงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมเสริมความมั่นคงของระบบไฟฟ้าที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายจากพายุฤดูร้อน เตรียมเครื่องมืออุปกรณ์พร้อมจัดชุดทำงานเฉพาะกิจ 24 ชั่วโมง แก้ไขระบบไฟฟ้าให้บริการประชาชนและขอให้ประชาชนหมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพปกติ ซึ่ง PEA มีข้อแนะนำเพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้า ดังนี้

1. อาคารสูงควรติดตั้งสายล่อฟ้าป้องกันฟ้าฝ่า
2. เมื่อเกิดฝนฟ้าคะนองไม่ควรใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด
3. ควรจัดเตรียมอุปกรณ์ เช่น ไฟฉาย ไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
4. อย่าติดตั้งเสาอากาศวิทยุ หรือเสาอากาศโทรทัศน์ใกล้สายไฟฟ้า
5. ตรวจสอบความมั่นคงเสาโทรทัศน์/วิทยุและ ป้ายโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ให้อยู่ในสภาพแข็งแรงเพื่อป้องกันการโค่นล้ม
6. ไม่ควรใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าชั่วคราวในขณะที่มีพายุ-ฝน เช่น โทรทัศน์และโทรศัพท์ นอกจากมีกรณีฉุกเฉิน
7. ติดตั้งสายดินที่อุปกรณ์ป้องกัน แผงเมนสวิตช์และอุปกรณ์ไฟฟ้า
8. เมื่อตัวเปียก พื้นแฉะ ไม่ควรใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า ควรเช็ดตัวให้แห้งก่อน และยืนบนพื้นที่แห้ง

อย่างไรก็ตาม หากพบเห็นระบบจำหน่ายของ PEA ชำรุดเสียหาย เช่น  กิ่งไม้ ต้นไม้ ล้มทับสายไฟฟ้า เสาล้ม สายไฟฟ้าขาด อย่าเข้าใกล้ กรุณาแจ้งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่อยู่ในพื้นที่ของท่าน หรือโทร 1129 PEA Call Center ตลอด 24 ชั่วโมง

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/03/18/21201925_week4_PEA.jpg
" 399831,"บริษัท เลกาซี่ ไพร์ม เมด และ บริษัท เอวีเอส อินโนเวชั่น ภายใต้อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ร่วมกันพัฒนาสูตรน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสภายใต้เทคโนโลยี “i-Sol+ Tech” ที่ปราศจากแอลกอฮอล์เพื่อเป็นอีกทางเลือกของคำตอบในการกำจัดไวรัสชนิดต่างๆรวมถึงโคโรนาไวรัสได้ถึง 99% ออกฤทธิ์ปกป้องพื้นผิวนานถึง 24 ชม. พกพาสะดวก ฉีดได้ทั้งหน้ากากและพื้นผิวสัมผัสต่างๆ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการปกป้องและ  ฆ่าเชื้อไวรัส พร้อมร่วมสนับสนุนบริจาคผลิตภัณฑ์ หนึ่งล้านมิลลิลิตรแรก ให้กับหน่วยงานภาครัฐด้านการแพทย์ทั้งในไทยและในประเทศจีน เพื่อเป็นอีกหนึ่งแรงที่ร่วมสนับสนุนมาตรฐานการ การควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรคและสุขภาวะที่ดีของประชาชน

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/03/10/9905.jpg

รศ.ดร.นพ.กำพล ศรีวัฒนกุล ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้งบริษัท เอวีเอส อินโนเวชั่น จำกัด ภายใต้อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย  กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่ได้มีการแพร่กระจายไปทั่วโลกและเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น เพื่อเป็นการควบคุมการระบาดและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต รวมทั้งลดความตื่นตระหนกของประชาชน จำเป็นต้องมีนวัตกรรมเข้ามาช่วยในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสและเชื้อโรคชนิดต่างๆ ไม่ให้กระจายวงกว้างมากขึ้น และต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ประชาชนสามารถใช้ได้อย่างทั่วถึงและไม่เกิดอันตราย โดยเห็นว่าผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแอลกอฮอล์ที่มีอยู่ในตลาดแม้ว่าจะมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคได้ดี และได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกว่าสามารถฆ่าเชื้อโคโรนาได้นั้น แต่แอลกอฮอล์ออกฤทธิ์ในฆ่าได้ไม่เกิน 1 นาทีเนื่องจากสามารถระเหยได้ง่าย อีกทั้งมีประชาชนเป็นจำนวนหนึ่งที่เกิดอาการแพ้ ผิวแห้ง ทำให้เป็นข้อจำกัดของผลิตภัณฑ์กลุ่มดังกล่าว เพื่อให้มีทางเลือกของผลิตภัณฑ์ป้องกันเชื้อไวรัสที่มากขึ้น ทางบริษัทจึงได้พัฒนาเทคโนโลยี i-Sol+ Tech (ไอโซ-เทค) สิทธิบัตรเฉพาะของบริษัท ซึ่งเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสปราศจากแอลกอฮอล์ มีสารออกฤทธิ์สำคัญที่ National Environment Agency (NEA) ได้ให้คำแนะนำว่าเป็นสารที่สามารถฆ่าเชื้อโคโรนาไวรัสได้ นอกจากนี้ โดยสิทธิบัตรที่จำเพาะของบริษัทที่ได้ใช้เทคโนโลยีนาโนในการสร้างอนุภาคไอออนเพื่อทำลายเมมเบรนที่ห่อหุ้มและสารพันธุกรรมของไวรัสทำให้ไวรัสตายในที่สุด ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนี้สามารถฆ่าเชื้อไวรัสทั้งแบบมีเปลือกห่อหุ้ม (enveloped virus) และไม่มีเปลือกห่อหุ้ม (ไวรัสเปลือย) (non-enveloped virus)   โคโรนาจัดเป็นไวรัสกลุ่มมีเปลือกห่อหุ้ม เมื่อฉีดสามารถออกฤทธิ์นานถึง 24 ชม. ซึ่งปัจจุบันผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ (alcohol-based) เป็นหลัก จึงถือเป็นเทคโนโลยีที่คิดค้นโดยนักวิทยาศาสตร์และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของประชาชนในการรับมือและป้องกันตัวเองจากไวรัสโคโรนา

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/03/10/3804.jpg

“นวัตกรรมใหม่นี้ เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักจึงเหมาะกับทุกคนแม้แต่ผู้ที่แพ้ง่าย ผู้ใช้สามารถฉีดสเปรย์ลงบนหน้ากากและพื้นผิวสัมผัสต่างๆเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการปกป้องและฆ่าเชื้อไวรัส หน้ากากอนามัย สำหรับผู้ที่ใช้หน้ากากอนามัยประเภทซักได้สามารถเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการนำกลับมาใช้ซ้ำโดยการซักทำความสะอาดและฉีดสเปรย์ลงบนหน้ากากเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องและฆ่าเชื้อไวรัสก่อนใช้งานทุกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่หน้ากากอนามัยขาดตลาด และยังเป็นการช่วยลดขยะจากหน้ากากอนามัยได้อีกด้วย” รศ.ดร.นพ.กำพล กล่าว

ด้านนายอภิวัฒน์ เฟื่องฟู กรรมการ บริษัท เลกาซี่ ไพร์ม เมด จำกัด  (Legacy Prime Med)  กล่าวว่า บริษัทฯ มีนโยบายหลักในการสนับสนุนศักยภาพของงานวิจัยจากนักวิจัยไทย จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา  บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงความสำคัญต่อการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว จึงได้ให้การสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาร่วมกับนักวิจัยของบริษัท เอวีเอส อินโนเวชั่น จำกัด ภายใต้อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย เพื่อพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสและเชื้อโรคภายใต้เทคโนโลยี i-Sol+ Tech (ไอโซ-เทค) ซึ่งเป็นนวัตกรรมสูตรน้ำสำหรับฆ่าเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และ เชื้อรา เพื่อการเข้าถึงสุขภาวะที่ดีของทุกคน  โดยน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสดังกล่าวปราศจากแอลกอฮอล์และอยู่ภายใต้สิทธิบัตรของบริษัท เลกาซี่ ไพร์ม เมด จำกัด

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/03/10/9903.jpg

“ก่อนจะเริ่มดำเนินการจัดจำหน่ายภายในเดือนมีนาคมนี้ บริษัทฯ ได้มีการแสดงเจตนารมณ์ในการบริจาคให้กับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องสำหรับนำไปใช้ประโยชน์ต่อสาธารณชน โดยจะมอบให้กับหน่วยงานภาครัฐด้านการแพทย์ทั้งในไทยและในประเทศจีน อาทิ กรมการแพทย์ทหารบก ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย มหาวิทยาลัยนเรศวร และโรงพยาบาลในประเทศจีน รวมหนึ่งล้านมิลลิลิตร” นายอภิวัฒน์ กล่าว

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่จะวางจำหน่าย มีให้เลือก 3 ขนาด ขนาดพกพา 20 มล. ขนาด 250 มล. สามารถใช้ได้ในบ้าน และขนาดใหญ่ 1,000 มล. เพื่อใช้ภายในสำนักงานหรือองค์กร โดยข้อมูลการจำหน่ายสามารถติดตามได้ที่ www.isoltechspray.com

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/03/10/5602.jpg

นอกจากนี้เพื่อเป็นการสานต่อนโยบายของบริษัท เลกาซี่ ไพร์ม เมด จำกัด ในการสนับสนุนการคิดค้นและพัฒนางานวิจัย ภายในงานยังได้จัดให้มีพิธีลงนามความร่วมมือด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสและเชื้อโรค ระหว่าง บริษัท เลกาซี่ ไพร์ม เมด จำกัด โดยนาย อภิวัฒน์ เฟื่องฟู กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ นายชิงตะ แซ่หว่าง กรรมการบริษัท และ บริษัท เอวีเอส อินโนเวชั่น จำกัด  ภายใต้อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย โดย นายอนุวัฒน์ หลายกิจรุ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และดร.สรวง สมานหมู่ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ร่วมลงนามความร่วมมือทั้ง 2 หน่วยงานอีกด้วย

เกี่ยวกับ Legacy Prime Med
บริษัท เลกาซี่ ไพร์ม เมด จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเพื่อสุขอนามัย โดยมีความมุ่งมั่น  ที่จะคิดค้น พัฒนา และสรรสร้างนวัตกรรม เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของสุขภาพและสุขอนามัยที่ดี เราพร้อมที่จะผลักดันวงการแพทย์ และงานวิจัยในประเทศไทยให้มีบทบาทในเวทีเทคโนโลยีและนวัตกรรมของโลก โดยบริษัทกำลังเข้ามาตั้งหน่วยประสานงานด้านวิจัยและนวัตกรรม ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ในการเป็น Innovation Hub ที่จะนำงานวิจัยต่างๆของประชาคมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทยออกไปสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศเพื่อสร้างรายได้กลับเข้าสู่ประเทศไทยเพื่อสนับสนุนและต่อยอดงานวิจัยของนักวิจัยไทยต่อไป


เกี่ยวกับ  AVS Innovation
บริษัท เอวีเอส อินโนเวชั่น จำกัด เป็นบริษัทที่จัดตั้งเพื่อมีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจทางด้านวิจัย พัฒนานวัตกรรมและต่อยอดผลิตภัณฑ์ทางด้านเทคโนโลยีไมโครเอนแคปซูเรชั่น การนำส่งสารสำคัญเข้าสู่ผิวหนังและร่างกาย สารสกัดจากธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ทางด้าน Food Innovation ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทของคนไทยเพียงแห่งเดียวในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ที่มีขีดความสามารถในการทำวิจัย พัฒนา ออกแบบ ผลิตสารสกัดจากธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพ เวชภัณฑ์ โดยฝีมือคนไทย เพื่อลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศและยังสามารถส่งออกไปขายยังต่างประเทศเพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศและสร้างอาชีพให้แก่คนไทย

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/03/10/5601.jpg
" 399838,"
/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/03/10/3089587154_197406698157234_7354087701382955008_n.jpg

วันที่ 9 มีนาคม 2563 นายจาตุรงค์ สุขะเสน รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ประธานในพิธี ส่งมอบโครงการ "PEA LED เพื่อแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทย" โดยมีคณะผู้บริหาร PEA ร่วมพิธี ณ วัดมหาธาตุแหลมสัก อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกับชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจของประเทศตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมและสนับสนุนการประหยัดพลังงาน ความปลอดภัยในแหล่งท่องเที่ยวและชุมชน จึงจัดทำโครงการ PEA LED เพื่อแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทย” มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลา 7 ปี ดำเนินการไปแล้วทั้งสิ้น 43 แห่ง โดยติดตั้งหลอดประหยัดพลังงานชนิด LED เพื่อใช้เป็นไฟส่องสว่างในโบราณสถานและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ช่วยลดค่าใช้จ่าย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อน สร้างความสวยงาม กระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมทั่วประเทศ การกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน

สำหรับวัดมหาธาตุแหลมสัก PEA ได้ดำเนินการติดตั้งระบบปรับปรุงและเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าเป็นหลอดประหยัดพลังงาน LED รอบบริเวณชั้นบนและบันไดทางขึ้น พระเจดีย์วัดมหาธาตุแหลมสัก จำนวน 202 ชุด เป็นเงินทั้งสิ้น 1,997,309 บาท สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 32,000 บาทต่อปี ลดก๊าซเรือนกระจกได้ 1.708 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี และในปี 2563 PEA มีแผนติดตั้งระบบส่องสว่าง LED ให้แก่โบราณสถานและแหล่งท่องเที่ยวอีก 4 แห่งในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/03/10/4087482255_597094657812612_8649281045641822208_n.jpg

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/03/10/7289120421_730292087502494_7089819952797974528_n.jpg

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/03/10/3189263779_693496377854723_4527242833924456448_n.jpg

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/03/10/3189353512_136368344422399_179340014461648896_n.jpg
" 401794,"นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เปิดเผยว่า PEA ได้มีมาตรการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าตามมติคณะรัฐมนตรี เพื่อเป็นการเยียวยาผลกระทบจากไวรัส COVID-19  สำหรับจำนวนเงินประกันที่จะคืนให้กับผู้ใช้ไฟฟ้ากรณีบ้านอยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็กขึ้นอยู่กับผู้ใช้ไฟฟ้าแต่ละราย ที่วางเงินประกันการใช้ไฟฟ้าไว้กับ PEA เมื่อมาขอใช้ไฟฟ้า ซึ่ง PEA ได้จัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการและขั้นตอนการจ่ายคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า รวมถึงได้มีการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าให้มากที่สุด

ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถตรวจสอบสิทธิ์และลงทะเบียนการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าผ่าน https://dmsxupload.pea.co.th/cdp/ ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป โดยกรอกชื่อ นามสกุล หมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้า หมายเลขบัตรประชาชน ให้ครบถ้วน ส่งหลักฐานผ่านระบบและรอรับเงินตามช่องทางดังนี้ PromptPay บัญชีเงินฝากธนาคาร บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือรับเงินสด ที่สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในพื้นที่ ทั้งนี้ PEA จะส่ง SMS ยืนยันผลการลงทะเบียนและแจ้งผลการคืนเงินให้ผู้ใช้ไฟฟ้าทราบ โดยเริ่มจ่ายเงินตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/03/20/5790507068_533225917324150_1756999789976748032_n.jpg

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/03/20/8790641086_2801495153299140_5595078553906446336_n.jpg

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/03/20/6089924893_2575252416131596_8799153444104437760_n.jpg

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/03/20/6090188081_212025356702935_1975920444921872384_n.jpg
" 401803,"กรุงเทพฯ 20 มีนาคม 2563 - องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ปล่อยวิดีโอ “ตื่นตัวแต่ไม่ตื่นกลัว 5 วิธีหนีห่างจาก COVID-19” http://bit.do/โควิด-19vdo ที่เน้นย้ำความสำคัญของการล้างมือเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโรคโควิด-19 พร้อมสร้างต้นแบบให้เด็ก ๆ เห็นว่าทุกคนสามารถดูแลตัวเองให้รอดพ้นจาก โควิด-19 ได้ด้วยการล้างมือและข้อปฏิบัติง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ยูนิเซฟกำลังจัดทำสื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับโควิด-19 โปสเตอร์ขั้นตอนการล้างมือ และดำเนินการจัดส่งสบู่และเครื่องวัดอุณหภูมิไปยังศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียน 3,000 แห่งในประเทศไทย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/03/20/57UNICEF_Handwashing_02.png

รวมข้อควรรู้เกี่ยวกับการล้างมือเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019

1. ล้างมืออย่างไรให้ถูกวิธี?
การถูมือไปมาอย่างรวดเร็วและล้างออกด้วยน้ำ ไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสที่อาจปะปนอยู่บนมือได้ วิธีการล้างมือที่ถูกต้องนั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ ตาม 5 ขั้นตอนข้างล่างนี้
1) ล้างมือให้เปียกด้วยน้ำ
2) ถูมือด้วยสบู่ในปริมาณที่มากเพียงพอ
3) ถูมือให้ทั่ว รวมทั้งหลังมือ ซอกนิ้ว ข้อมือ หัวแม่มือ และใต้เล็บ เป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาที
4) ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำ
5) เช็ดมือให้แห้งด้วยผ้าสะอาดหรือกระดาษที่ใช้แล้วทิ้ง

2. ควรล้างมือเป็นเวลานานเท่าไหร่?
การล้างมือในแต่ละครั้งควรใช้เวลาอย่างน้อย 20 วินาที หรือร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ หรือเพลงช้างไปด้วย 2 รอบนั่นเอง เช่นเดียวกับการใช้เจลล้างมือแอลกอฮอล์ที่ต้องมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบอย่างน้อยร้อยละ 70 จากนั้นถูให้ทั่วทั้งบนฝ่ามือและหลังมืออย่างน้อย 20 วินาที

3. ควรล้างมือเมื่อไหร่ดี?
เพื่อป้องกัน โควิด-19 นั้น ควรล้างมือทุกครั้งหลังจากทำกิจกรรมดังต่อไปนี้
  • สั่งน้ำมูก ไอ หรือจาม
  • หลังจากไปสถานที่สาธารณะต่าง ๆ เช่น การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ตลาด และสถานที่ทางศาสนา
  • หลังจากสัมผัสกับพื้นผิวหรือวัสดุต่าง ๆ นอกบ้านและเงิน
  • ก่อน ระหว่าง และหลังจากการดูแลผู้ป่วย
  • ก่อนและหลังรับประทานอาหาร
  • หลังจากใช้ห้องน้ำ
  • หลังจากทิ้งขยะ
  • หลังจากสัมผัสสัตว์เลี้ยงและสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ
  • หลังเปลี่ยนผ้าอ้อมเด็กหรือพาเด็ก ๆ เข้าห้องน้ำ
  • และแน่นอน เมื่อเห็นว่ามือมีคราบสิ่งสกปรก

4. เริ่มสร้างนิสัยการล้างมือให้กับเด็ก ๆ ล้างมืออย่างไรดี?
เราสามารถสอนเด็ก ๆ และทำให้พวกเขารู้สึกว่าการล้างมือเป็นเรื่องง่าย อย่างเช่น เอาเก้าอี้มาวางเพื่อให้เด็กสามารถเอื้อมหยิบสบู่ได้เอง นอกจากนี้ยังทำให้เป็นกิจกรรมสนุก เช่น ร้องเพลงขณะช่วยเด็ก ๆ ถูสบู่

5. จำเป็นต้องใช้น้ำอุ่นล้างมือหรือไม่?
ไม่จำเป็น การล้างมือสามารถใช้น้ำอุณหภูมิใดก็ได้ ตราบใดที่ใช้สบู่ จะน้ำเย็นหรือน้ำอุ่นก็สามารถฆ่าเชื้อโรคและไวรัสได้เหมือนกัน

6. จำเป็นต้องเช็ดมือให้แห้งหรือไม่?
ปกติแล้วเชื้อโรคจะแพร่กระจายจากผิวที่มีความเปียกได้ง่ายกว่าจากผิวที่แห้ง ดังนั้นก็เช็ดมือให้แห้ง ไม่ว่าจะด้วยกระดาษเช็ดมือหรือผ้าสะอาด ก็ถือเป็นอีกขั้นตอนสำคัญในการกำจัดเชื้อโรคและลดการแพร่กระจายต่อไปยังพื้นผิวต่าง ๆ

7. ระหว่างล้างมือกับการใช้เจลล้างมือแอลกอฮอล์ อย่างไหนดีกว่ากัน?
โดยปกติแล้ว หากทำอย่างถูกวิธี ทั้งการล้างมือด้วยสบู่และการใช้เจลล้างมือแอลกอฮอล์ต่างก็สามารถกำจัดเชื้อโรคและจุลินทรีย์ต่าง ๆ ได้ น้ำยาหรือเจลล้างมือแอลกอฮอล์ให้ความสะดวกเมื่อต้องอยู่นอกบ้านแต่ก็มีราคาสูงหรืออาจจะหายากในสถานการณ์ฉุกเฉิน นอกจากนี้ เจลล้างมือแอลกอฮอล์นั้นสามารถฆ่าไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้แต่ไม่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสสายพันธุ์อื่น ๆ อย่าง โนโรไวรัส (Norovirus) และไวรัสโรต้า (Rotavirus) ได้

8. วิธีอื่น ๆ ที่จะช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019?
  • ปิดปากและจมูกขณะไอหรือจามด้วยข้อพับแขนด้านใน หรือใช้กระดาษทิชชู่ และต้องทิ้งลงถังขยะหลังจากใช้ในทันทีแล้วล้างมือให้สะอาด
  • หลีกเลี่ยงการแตะหรือจับต้องใบหน้า (ปาก จมูก ตา)
  • เว้นระยะห่างในการเข้าสังคม (Social distancing) เช่น อยู่ห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1 เมตร และหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีคนจำนวนมาก
  • ควรรับประทานอาหารโดยใช้ภาชนะ ช้อนส้อมของตนเอง ไม่ใช้แก้วน้ำหรือผ้าร่วมกัน
  • หลีกเลี่ยงการติดต่อใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการคล้ายไข้หวัด
  • หากตัวเองหรือลูกมีไข้ มีอาการไอหรือหายใจลำบาก ควรรีบไปพบแพทย์
  • ทำความสะอาดพื้นผิวที่อาจจะมีเชื้อไวรัส และหมั่นเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ (โดยเฉพาะในพื้นที่สาธารณะ)

วิดีโอ “ตื่นตัวแต่ไม่ตื่นกลัว 5 วิธีหนีห่างจาก COVID-19” http://bit.do/โควิด-19vdo

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโควิด -19 ได้ที่ Facebook: UNICEF Thailand และ www.unicef.or.th

เครดิตภาพ: ยูนิเซฟ" 402573,"การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ขอความร่วมมือให้ผู้ใช้ไฟฟ้าลงทะเบียนตรวจสอบสิทธิ์คืนเงินประกันผู้ใช้ไฟฟ้าผ่านช่องทางต่างๆ โดยไม่ต้องเดินทางมาติดต่อที่สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อลดการแพร่ระบาดและป้องกันการแพร่เชื้อไวรัส COVID-19 ตามมาตรการของรัฐบาล “อยู่บ้าน ลดเชื้อ   เพื่อชาติ” PEA มีมาตรการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าให้กับผู้ใช้ไฟฟ้ากรณีบ้านอยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็ก ตามหลักเกณฑ์การจ่ายคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า ขอความร่วมมือผู้ใช้ไฟฟ้าดำเนินการดังนี้

ช่องทางการตรวจสอบสิทธิ์เริ่มวันที่ 25 มีนาคม 2563 (ไม่มีกำหนดเวลาสิ้นสุด)
1. Scan QR Code ท้ายใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้า เริ่มเดือนมีนาคม 2563
2. แอปพลิเคชัน PEA Smart Plus
3. Facebook : การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค PEA
4. PEA Line Official Account : @peathailand

ช่องทางการรับเงิน เริ่มวันที่ 31 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป
1. พร้อมเพย์ (บัตรประชาชน)
2. โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ดังนี้ ธนาคารกรุงไทย  ธนาคารกสิกรไทย  ธนาคารไทยพาณิชย์
ธนาคารทหารไทย และ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
3. Counter Service 7 – 11 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยแสดงบัตรประชาชน (SMART CARD) และ PIN Code ของผู้รับเงินเท่านั้น
ขอความร่วมมือผู้ใช้ไฟฟ้างดการเดินทางติดต่อสำนักงาน PEA เพื่อลดการแพร่เชื้อโควิด-19 จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

ข่าว : กองสื่อสารองค์กร ฝ่ายประชาสัมพันธ์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/03/24/55S_234872880.jpg
" 402583,"นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ขอความร่วมมือให้ผู้ใช้ไฟฟ้าลงทะเบียนตรวจสอบสิทธิ์คืนเงินประกันผู้ใช้ไฟฟ้าผ่านช่องทางออนไลน์ที่ PEA กำหนด โดยไม่ต้องเดินทางมาติดต่อที่สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อลดการแพร่ระบาดและป้องกันการแพร่เชื้อไวรัส COVID-19 ตามมาตรการของรัฐบาล “อยู่บ้าน ลดเชื้อ เพื่อชาติ”
PEA ขอความร่วมมือผู้ใช้ไฟฟ้าลงทะเบียนรับเงินประกันการใช้ไฟฟ้าผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงกรณีชื่อเจ้าของบ้านไม่ตรงกับใบแจ้งหนี้ค่าไฟ สามารถรับเงินได้ผ่านทางระบบออนไลน์ โดยไม่ต้องมาแจ้งเปลี่ยนชื่อที่สำนักงาน PEA เพื่อลดการแพร่เชื้อโควิด-19 จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

https://www.facebook.com/178690235493791/posts/3456408691055246/

ข่าว : กองสื่อสารองค์กร ฝ่ายประชาสัมพันธ์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/03/24/3890242789_674392416712191_8320410683913011200_n.jpg
" 407194,"วันนี้ องค์การยูนิเซฟได้ออกผลสำรวจล่าสุด เรื่องผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่อเด็กและเยาวชนในประเทศไทย พบว่า เด็กและเยาวชนกว่า  8 ใน 10 คน มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาการเงินของครอบครัว ซึ่งเป็นประเด็นที่เด็กและเยาวชนกังวลมากที่สุด เนื่องจากพ่อแม่ผู้ปกครองไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ อันเป็นผลมาจากการปิดตัวของธุรกิจต่าง ๆ ตลอดจนการถูกเลิกจ้าง

การสำรวจนี้จัดทำโดยองค์การยูนิเซฟ ร่วมกับสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ และกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ โดยเป็นการสำรวจครั้งแรกที่มุ่งศึกษาผลกระทบของวิกฤตโควิด-19 ต่อเด็กและเยาวชนในประเทศไทย และทำความเข้าใจเกี่ยวกับความต้องการที่แท้จริงของพวกเขา โดยเก็บข้อมูลผ่านแบบสอบถามออนไลน์ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม ถึง 6 เมษายน จากเด็กและเยาวชนจำนวน 6,771 คนทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่อายุ 15-19 ปี

ผลสำรวจยังพบว่า เด็กและเยาวชนกว่า 7 ใน 10 คน กล่าวว่าวิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ โดยพวกเขามีความเครียด วิตกกังวลและเบื่อหน่าย นอกจากนี้ เด็กและเยาวชนเกินครึ่งรู้สึกกังวลด้านการเรียน การสอบ และโอกาสในการศึกษาต่อ เนื่องจากการปิดโรงเรียนเป็นระยะเวลานาน ในขณะที่ ร้อยละ 7 รู้สึกกังวลเกี่ยวกับปัญหาความรุนแรงในครอบครัว เช่น การทะเลาะกันของผู้ปกครองและการทำร้ายร่างกาย

ผลสำรวจยังสะท้อนปัญหาของเยาวชนกลุ่ม LGBTIQ จากการที่ต้องอยู่แต่ในบ้าน โดยร้อยละ 4 ของผู้ตอบแบบสอบถามรู้สึกกังวลเรื่องเพศสภาพที่ถูกกดดันเพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่สามารถแสดงอัตลักษณ์หรือตัวตนกับครอบครัวได้ รวมถึงบางส่วนที่อาจไม่สามารถเข้าถึงฮอร์โมนเสริมได้ในช่วงนี้ 

นายโธมัส ดาวิน ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “ผลสำรวจนี้ชี้ให้เห็นชัดเจนว่าวิกฤตครั้งนี้ส่งผลกระทบมากมายหลายด้านต่อเด็ก ๆ และเยาวชนหลายกลุ่ม โดยเด็กและเยาวชนต่างมีความเครียด ความกลัวและวิตกกังวลไม่ต่างจากผู้ใหญ่ เวลานี้ครอบครัวถือเป็นพลังสำคัญที่จะช่วยให้เด็ก ๆ จัดการกับสภาวะเหล่านี้ได้ พวกเขาควรได้รับความรักความเอาใจใส่ในช่วงเวลานี้มากกว่าที่เคย”

/home/www/ch7/htdocs/files/images/src/2020/04/16/69UNICEF_Youth_Survey_01.jpg

ดร.วาสนา อิ่มเอม รักษาการหัวหน้าสำนักงาน  กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “การสำรวจแสดงให้เห็นว่าร้อยละ 36  ของเยาวชนและวัยรุ่นกว่า 6,700 คนที่ตอบแบบสอบถามระบุว่ามีผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปีอยู่ที่บ้าน นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะให้เยาวชนและวัยรุ่นเป็นผู้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสผ่านกิจกรรมแบบเว้นระยะห่างทางสังคมที่สนับสนุนด้านสุขภาพและจิตใจให้แก่ผู้สูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มคนที่อยู่ในภาวะที่เสี่ยงที่สุดในช่วงการระบาดของโควิด -19 ผ่านทางการสร้างความรู้และการตระหนักรู้ในเรื่องการดูแลสุขภาพของตนเองและป้องกันการเป็นพาหะในช่วงนี้”

ผลสำรวจยังได้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของเด็กและเยาวชนในด้านความต้องการเรียนรู้ออนไลน์เพื่อเสริมความรู้และทักษะระหว่างที่โรงเรียนปิดและต้องอยู่แต่ในบ้าน โดยพบว่า สิ่งที่เด็กและเยาวชนอยากเรียนเพิ่มเติมมากที่สุด คือ ภาษาอังกฤษ รองลงมาคือ ความรู้เสริมในวิชาที่กำลังเรียนอยู่ในปัจจุบัน ในขณะที่ เด็ก 1 ใน 4 คนระบุว่าอยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการกับความเครียดและโรคซึมเศร้า

ด้านนางสาวสุภาพิชญ์ ไชยดิษฐ์ ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ภาครัฐต้องให้ความสำคัญเร่งด่วนกับปัญหาสุขภาพจิตของเด็กและเยาวชนทั้งในช่วงการแพร่ระบาดและหลังสถานการณ์ ตลอดจนให้ความใส่ใจเด็กและเยาวชนในแต่ละช่วงวัย เพราะเด็กทุกคนควรได้รับการปกป้องคุ้มครองแม้อยู่ที่บ้าน เด็ก ๆ ควรได้รับการส่งเสริมและพัฒนาให้เหมาะสมกับพัฒนาการและช่วงวัย"

นายเรอโนด์ เมแยร์ ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า “วิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด -19 เป็นมากกว่าวิกฤตทางสุขภาพ แต่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมต่อทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เปราะบางเช่นเด็กและเยาวชน แต่เยาวชนเองก็มีศักยภาพมากมายที่จะเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง พวกเขามีพลัง มุ่งมั่น และมีทักษะด้านเทคโนโลยีที่จะมาช่วยหาแนวทางใหม่ ๆ ด้านดิจิทัล ดังนั้น การสนับสนุนเยาวชนจึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก ไม่เพียงแต่ปกป้องพวกเขาจากโควิด-19 เท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยเพิ่มศักยภาพต่อการรับมือกับของวิกฤต และช่วยสร้างสังคมแห่งการมีส่วนร่วม ยั่งยืน และเข้มแข็งต่อไป” 

ยูนิเซฟได้เรียกร้องให้รัฐบาลในประเทศต่าง ๆ เสริมมาตรการคุ้มครองทางสังคมเพื่อช่วยเหลือกลุ่มประชากรที่เปราะบางเพื่อบรรเทาผลกระทบของวิกฤตโควิด-19 ที่มีต่อเด็กและครอบครัว พร้อมส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ออนไลน์ การศึกษาทางไกล ตลอดจนบริการให้คำปรึกษาเยียวยาจิตใจและบริการทางสุขภาพจิตสำหรับวัยรุ่น

ในประเทศไทย ยูนิเซฟร่วมกับมูลนิธิแพธทูเฮลท์ (Path2Health) จัดคลินิกออนไลน์ 24 ชั่วโมง ชื่อ เลิฟแคร์ สเตชั่น www.lovecarestation.com เพื่อให้คำปรึกษาแก่วัยรุ่นในด้านต่าง ๆ โดยเป็นบริการเฉพาะสำหรับวัยรุ่นที่เข้าถึงง่าย และเป็นมิตรกับวัยรุ่น

นายดาวินกล่าวทิ้งท้ายว่า “เด็กและเยาวชนมากมายกำลังประสบปัญหาและต้องแบกรับภาระอันเป็นผลพวงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ครั้งนี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเนื่องไปอีกนาน เราเห็นปัญหาต่าง ๆ มากมายหลังการแพร่ระบาดเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์  โดยหลายครอบครัวต้องกระเสือกกระสนในการมีชีวิตรอด หลายคนไม่มีเงินแม้จะซื้อข้าวให้ลูกกิน เราต้องมีมาตรการที่จะรับมือกับผลกระทบของโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และต้องร่วมมือกันอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนต้องแบกรับผลกระทบ หรือจมอยู่ในวงจรของปัญหาที่อาจยืดเยื้อต่อไปไม่สิ้นสุด”

######

ดาวน์โหลดผลสำรวจเบื้องต้น ได้ที่ https://uni.cf/2XvL6qM

ข้อมูลเพิ่มเติม
ยูนิเซฟกำลังดำเนินการร่วมกับรัฐบาลและพันธมิตรในการรับมือกับวิกฤตโควิด-19 โดยเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดูแลและป้องกันตนเองจากโควิด-19  ให้แก่ประชาชน ตลอดจนกลุ่มแรงงานข้ามชาติใน 18 จังหวัด นอกจากนี้ ยังดำเนินการจัดส่งเครื่องวัดอุณภูมิและเครื่องใช้เพื่อสุขอนามัยไปยังเด็กและเยาวชนที่เปราะบางทั่วประเทศ พร้อมกับจัดทำคู่มือสำหรับโรงเรียนเพื่อให้แน่ใจว่าเด็ก ๆ จะกลับมาเรียนอย่างปลอดภัยเมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ใน

ด้านนโยบายสังคม ยูนิเซฟกำลังจัดทำการวิเคราะห์ผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมที่มีต่อประชากรกลุ่มเปราะบางเพื่อทำข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาลไทยเพื่อขยายระบบความคุ้มครองทางสังคมไปสู่ครัวเรือนที่เปราะบางที่สุดต่อไป

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโควิด-19 www.unicef.org/thailand/th/coronavirus/covid-19

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่:
ณัฐฐา กีนะพันธ์, 086 616 7555, nkeenapan@unicef.org 
วรวุฒิ ชูมณี , 093 442 8289, wchumanee@unicef.org

ข่าวอื่นในหมวด