หลังถูกแจ้งความกล่าวหา "ป้าติ๋ว" ก็ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับตำรวจกองปราบปราม ขอให้ช่วยสืบสวนข้อเท็จจริง ตำรวจหาหลักฐาน จนพบว่าสลากฯ หมายเลขดังกล่าว ที่มีผู้นำไปขึ้นเงินรางวัล ไม่มีฉบับใดที่มีลายมือชื่อของ "ป้าติ้น" , ไม่มีร่องรอยขูดลบแก้ไขใดๆ และยังมีหลักฐานเป็นข้อความแชตไลน์ ระหว่าง "ป้าติ้น" กับ "ป้าติ๋ว" เป็นข้อความที่ "ป้าติ้น" ส่งมาบ่นน้อยใจที่ไม่ถูกรางวัล และยังมีข้อความสอบถามหมายเลขสลากฯ ชุดที่ซื้อ ในลักษณะที่จำไม่ได้แน่ชัดว่า ตนเองซื้อหมายเลขใดไป
ซึ่งศาลก็ได้พิจารณาพยานหลักฐาน ที่คู่ความทั้ง 2 ฝ่ายนำสืบ ก่อนจะพิพากษาว่า "ป้าติ้น" กุเรื่องซื้อลอตเตอรี่-ถูกลอตเตอรี่ขึ้นมา และนำไปกล่าวหาอีกฝ่าย เพื่อให้รับผิด
โดยศาลเห็นว่า พยานหลักฐานของ "ป้าติ๋ว" ที่กล่าวไปแล้ว มีน้ำหนักรับฟังได้ว่า "ป้าติ้น" กล่าวหาผู้อื่นเพื่อให้รับโทษทางอาญาจริงตามที่ถูกฟ้องพิพากษา แม้ว่าคดีที่ "ป้าติ้น" กล่าวหา "ป้าติ๋ว" พนักงานสอบสวนจะสั่งไม่ฟ้องเนื่องจากคดีไม่มีมูลก็ตาม แต่ก็ถือได้ว่า "ป้าติ้น" กระทำความผิดสำเร็จไปแล้ว จึงพิพากษาจำคุก "ป้าติ้น" 1 ปี 6 เดือน แต่ "ป้าติ้น" ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกไว้ 12 เดือน
หลังฟังคำพิพากษา "ป้าติ๋ว" ก็บอกว่ารู้สึกสบายใจ และดีใจกับผลคำพิพากษา หลังจากที่ต่อสู้คดียืดเยื้อมาถึง 2 ปี เมื่อสิ่งที่ "ป้าติ้น" กล่าวหาไม่ใช่เรื่องจริง ก็อยากให้ติดคุกเสียบ้าง จะได้ไม่ไปกลั่นแกล้งคนอื่นเช่นนี้อีก ส่วนตัวก็ยังคงรู้สึกว่า "ป้าติ้น" ไม่มีจิตสำนึก คิดอยากแต่จะได้ของคนอื่น เพราะก็ยังมีผู้ที่ถูก "ป้าติ้น" กล่าวหาแบบเดียวกับตนอีกคนหนึ่ง และก็ถูกฟ้องกลับเช่นกัน โดยคดีนั้นศาลจังหวัดมีนบุรี นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 30 กันยายน นี้