{channel_category} {/channel_category} ข่าวผู้ต้องหายิงเด็ก 14 ปี รับสารภาพทำเกินกว่าเหตุ
{/channel_category}

ผู้ต้องหายิงเด็ก 14 ปี รับสารภาพทำเกินกว่าเหตุ

View icon 97
วันที่ 11 พ.ย. 2562 | 13.45 น.
News
แชร์
จากเหตุการณ์คนร้ายยิงถล่มบ้านเลขที่ 88/4 หมู่ 11 ตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช กลางดึกที่ของวันที่ 9 พ.ย.2562 ที่ผ่านมา ทำให้เด็กหญิงศศิประภา ยี่สุ่นแซม อายุ 14 ปี ซึ่งนอนอยู่ในบ้านได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่ รพ.มหาราช โดยนายวิชัย ยี่สุ่นแซม บิดาของเด็กหญิงศศิประภา ยืนยันถึงปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากเรื่องไปดุด่า 1 ในกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เทน้ำหวานให้สุนัข จนเป็นชนวนเหตุดังลก่าว

ล่าสุด เช้าวันนี้พลตำรวจตรีสนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เข้าประชุมติดตามคดี หลังจากที่มีการออกหมายจับผู้ต้องหาทีมก่อเหตุแล้ว 5 คน โดยตำรวจจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว 2 ราย ตามหมายจับ คือ นายอนุศักดิ์  แดงเดช อายุ 27 ปี ชาวตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นทั้งต้นเรื่องและผู้ร่วมใช้อาวุธปืนลูกซองยิงเข้าใส่บ้านของนายวิชัย ตำรวจยังได้จับกุมตัวนายวัชระ วรรณมาศ อายุ 26 ปี ชาวตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช โดยนายวัชระ มีหน้าที่ชี้เป้าบ้านของนายวิชัย ให้ทีมมือปืนเข้าก่อเหตุ

ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับอีก 3 คน และยังหลหนีการจับกุม คือนายวัฒนา หรือหัวมัน อนันทขาล อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นหัวโจกนำทีมเข้าก่อเหตุ นายขุนพล เงินเลี่ยม อายุ 25 ปี และนายวิศนุ นาคคง อายุ 27 ปี ทั้งหมดอาศัยอยู่ในท้องที่ตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ตำรวจคาดว่าน่าจะได้ตัวในเร็วๆนี้

พลตำรวจตรีสนธิชัย ระบุว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดล้วนแต่มีประวัติและพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและคดีอาวุธปืน ก่อนเกิดเหตุได้เสพยาเสพติดแล้วเข้าไปก่อเหตุ โดยนายอนุศักดิ์เจ็บแค้นที่ถูกนายวิชัยดุด่าและทำร้ายจากนั้นไปขอยืมปืนจากนายวัฒนา เพื่อจะไปยิงบ้านของนายวิชัย แต่เมื่อนายวัฒนาทราบต้นเรื่องจึงเจ็บแค้นแทนนายอนุศักดิ์ชักชวนเพื่อนร่วมเข้าก่อเหตุ จากเรื่องไม่เป็นเรื่อง

ขณะที่นายอนุศักดิ์ ผู้ต้องหาที่เป็นต้นเรื่องในคดีนี้ หลังถูกสอบเค้นอย่างหนัก ได้ให้การยอมรับสารภาพกับตำรวจว่าเจตนาต้องการไปยิงบ้านเพื่อล้างแค้และข่มขู่เท่านั้น ไม่ได้หวังให้ถูกคนและพร้อมที่จะไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ยอมรับว่าหวั่นเกรงเรื่องความปลอดภัยอาจถูกญาติของผู้เสียหายทำร้าย ถ้าตายเลยนั้นจบไปแต่ถ้าไม่ตายพิกลพิการจะกลายเป็นภาระของมารดาที่อยู่ข้างหลัง

นายอนุศักดิ์ ยังบอกด้วยว่าเรื่องที่ลุกลามบานปลายไปขนาดนี้ทำให้เสียใจมาก และอยากขอโทษกับทุกคนแต่เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ถ้าเป็นไปได้นั้นขอตายแทนลูกสาวนายวิชัย พร้อมแลกชีวิตให้เขามีชีวิตอยู่แล้วให้ผมตายแทน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปขออำนาจศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว โดยนางทัดดาว ยี่สุ่นแซม มารดาของเด็กหญิงศศิประภา ผู้ตกเป็นเหยื่อได้เข้าร่วมคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง