โดยจากการเข้าตรวจสอบภายในรถ พบผู้ต้องหา 3 คน นายเกรียงไกร เพชรจันทรังษี, นายวรชุน แซ่ว่าง, นายคม แซ่หลี พร้อมของกลาง ไอซ์ น้ำหนัก 1,000 กิโลกรัม ซุกซ่อนในกระสอบปุ๋ยสีเหลือง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวและสอบปากคำ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่า ใช้รถยนต์คันแรกในการนำทาง สำรวจเส้นทาง และคุ้มกัน ส่วนรถคันที่สองใช้ในการลำเลียงยาเสพติด จึงแจ้งข้อกล่าวหาและส่งผู้ต้องหาพร้อมของกลางให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย
ขณะอีกหนึ่งคดีตำรวจได้จับยาไอซ์ 8 กิโลกรัม ได้ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบส่งยาเสพติดออกนอกประเทศทางพัสดุภัณฑ์ 2 รายการ สำแดงสินค้าที่ฝากส่งประเภทนาฬิกาแขวนผนังมีน้ำหนักผิดปกติ เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่ากรอบนาฬิกามีท่อเหล็กซึ่งถูกดัดแปลงขึ้นภายในบรรจุไอซ์ เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันยึดตรวจสอบก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
นอกจากนี้ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ยังได้ติดตามบุคคลพ้นโทษ หรืออยู่ระหว่างการดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติด พบว่ากลุ่มนี้ มีการติดการติดต่อกับผู้ต้องขังในพื้นที่ภาพอีสานและภาพเหนือ ซึ่งมีพฤติกรรมการใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยโดยไม่ประกอบอาชีพ โดยพบพฤติกรรมว่าผู้ต้องหา มักจะเดินทางข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อติดต่อสั่งซื้อยาเสพติดมาจำหน่ายผ่านโซเชียล โดยล่าสุดพบว่าเดินทางไปยังจังหวัดนครพนม ตำรวจจึงสืบสวนติดตามจนสามารถจับผู้ต้องหาได้ 2 คนที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมของกลางยาบ้า 40,000 เม็ด
ซึ่งวันนี้ตำรวจปราบปรามยาเสพติด โดยพลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พลตำรวจตรีชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้รวบรวมของกลางแถลงข่าวแถลงข่าว จำนวน 3 คดี สามารถจับผู้ต้องหา 7 คน พร้อมของกลาง ไอซ์ น้ำหนัก 1008 กิโลกรัม ยาบ้า จำนวน 40,000 เม็ด และกัญชา 1 กิโลกรัม รวมมูลค่ากว่า 360,000,000 บาท