ศพของหญิงอายุ 32 ปี สภาพนั่งแขวนคอกับคานเหล็กประตูฟุตซอล ที่วางคว่ำเรียบกับพื้นสภาพไม่ค่อยใช้งาน อยู่ริมสนามฟุตบอลขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านด่าน อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ มีชาวบ้านพบเห็นช่วงเย็นของวันที่ 14 พฤศจิกายน
สามีของเธอยอมรับว่า ช่วงประมาณ 04.00 น. หรือประมาณ 12 ชั่วโมงก่อนพบศพ เขามีปากเสียงกับภรรยา หลังลูกร้องไห้ไม่มีใครดูแล ทำให้ภรรยาเกิดอาการน้อยใจหนีออกจากบ้าน จากนั้นจึงพยายามออกตามหานานกว่า 2 ชั่วโมง และคิดว่าภรรยาน่าจะไปอาศัยอยู่บ้านญาติ จึงไม่ได้ตามหาต่อ เพราะเชื่อว่าภรรยาอารมณ์ดีขึ้นคงกลับบ้าน แต่ปรากฎว่าช่วงเย็นของวันเดียวกัน มีชาวบ้านโทรศัพท์แจ้งว่าพบศพภรรยาของเขาแขวนคอเสียชีวิต
ตำรวจ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ สอบปากคำสามีหญิงที่เสียชีวิต พร้อมตรวจเก็บหลักฐานในจุดที่พบศพ แต่ไม่ได้ตั้งข้อสงสัยและเกิดพิรุธ แม้จะพบสภาพศพเธอนั่งแขวนคอตนเองกับโครงเหล็กประตูฟุตบอลที่วางเรียบกับพื้น ประกอบกับแพทย์นิติเวชยืนยันว่า ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายในศพ ตำรวจจึงระบุสาเหตุการเสียชีวิตของเธอว่าเกิดจากการแขวนคอฆ่าตัวตาย หลังมีปากเสียงกับสามี ญาติจึงปักใจเชื่อในขณะนั้น
กระทั่งญาตินำศพมายังวัด และกำลังจะทำพิธีทางศาสนา จู่ ๆ ก็ประกาศไม่ให้เผาศพ หลังพบร่องรอยคล้ายการถูกทำร้าย บริเวณส่วนขา และแผ่นหลัง
ญาติและชาวบ้านจึงเริ่มตั้งข้อสังเกตว่า จุดที่เธอแขวนคอไม่ได้สูงพอจะทำให้ขาดอากาศหายใจได้ เพราะเป็นเพียงโครงเหล็กที่อยู่สูงเหนือจากพื้นไม่ถึง 1 เมตร และยิ่งการพบร่องรอยคล้ายถูกทำร้าย ยิ่งทำให้ญาติเชื่อว่าเธอถูกฆาตกรรมอำพรางศพ
นั่นเป็นสาเหตุที่ญาติตัดสินใจหยุดการจัดงานศพไว้ชั่วคราว พร้อมเรียกร้องให้แพทย์นิติเวชผ่าพิสูจน์อีกรอบ เพื่อให้มั่นใจว่าเธอไม่ได้ถูกคนทำร้าย ก่อนจะนำศพมาแขวนคออำพราง และหากผลผ่าพิสูจน์รอบที่ 2 ยังชี้ว่าไม่พบการถูกทำร้าย ญาติก็จะไม่ติดใจการเสียชีวิต พร้อมนำศพทำพิธีฌาปนกิจทางศาสนา