รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุผู้เสียหาย ซึ่งเป็นนักเรียนกำลังจะไปเรียนพิเศษภายในห้างเดอะมอล์งามวงศ์วาน
โดยมีนายวินิจคนร้ายได้เข้ามาล็อคคอ แล้วพูดว่าอย่าขัดขืนมีอาวุธปืน จนทำให้ผู้เสียหายกลัว จากนั้นคนร้ายได้พาผู้เสียหายเดินออกจากห้างทางด้านหลังลานจอดรถ ไปพบกับนายโชคชัย คนร้ายอีกคน ที่อ้างว่าเป็นทหาร ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ พาผู้เสียหายไปนอกห้างแล้วใช้โทรศัพท์โทรหาผู้เป็นพ่อให้โอนเงินมาให้จำนวน 4000 บาท คนร้ายจึงได้ให้ผู้เสียหายไปกดเงินหน้าปากซอยเรวดี ก่อนจะพาผู้เสียหายมาส่งยังบริเวณ หน้าศาลากลางจังหวัดนนทบุรี แล้วหลบหนีไป
จากการสืบสวนทราบว่าทั้ง 2 คนได้หลบหนี มาเช่าห้องพักที่บริเวณซอยชินเขต ถนนงามวงศ์วาน เขตทุ่งสองห้อง จึงวางแผนจับกุมไว้ได้ ยอมรับว่าก่อเหตุจริง หลังแถลงข่าวเสร็จสิ้น ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ห้างสรรพสินค้า The Mall งามวงศ์วาน โดยจุดแรกบริเวณ ชั้น1 ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คนเข้าไปล็อคตัวผู้เสียหาย ก่อนนำมาขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านหลังห้าง แล้วนำไปกดเงิน โดยอ้างว่าที่ทำไปเพราะต้องการเงินเป็นค่ารถกลับบ้านที่จังหวัดสมุทรสาคร และนำไปใช้หนี้ให้กับนายโชคชัยที่ติดหนี้ร้านคาราโอเกะอยู่จำนวน 10,000 บาท
ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัตินายวินิจ พบเคยถูกจับกุมในข้อหาชิงทรัพย์โดยมีอาวุธเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2559 พื้นที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร โดยศาลจังหวัดสมุทรสาคร ตัดสินจําคุก 5 ปี เพิ่งพ้นโทษมาเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2561 จนมาก่อเหตุซ้ำอีก