จากการตรวจสอบรถกระบะที่ผู้ต้องหาขโมยไป พบว่ามีการชำแหละแยกชิ้นส่วนตัวเครื่องและล้อแม็ก โดยนำไปโพสต์ขายในเพจจำหน่ายอะไหล่รถยนต์มือสอง และมีการสับเปลี่ยนป้ายทะเบียนเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต ตำรวจจึงได้ยึดรถของกลางกลับมาที่ สภ.เขาคิชฌกูฎ พร้อมรถจักรยานยนต์ที่ผู้ต้องหาใช้ในการก่อเหตุ ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.เขาคิชฌกูฎ
จากการสอบสวนนายอนันต์ ผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์และใช้เท้าถีบดันท้ายรถกระบะ เล่าว่าขณะที่มาเที่ยวงานนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวงเขาคิชฌกูฎกับนายสมศักดิ์ ระหว่างเดินทางกลับลงมาที่วัดกระทิง เห็นรถกระบะคันที่ขโมยไป จอดเปิดประตูรถไว้ จึงให้นายสมศักดิ์ เป็นคนบังคับพ่วงมาลัยรถ ส่วนตนเองขี่รถจักรยานยนต์ และใช้เท้าถีบท้ายรถกระบะ ให้เคลื่อนที่ จนเมื่อบังคับรถกระบะเลี้ยวซ้ายไปจอดในซอย จึงได้ต่อสายตรงเพื่อสตาร์ตเครื่องยนต์ ก่อนจะขับรถไปตามเส้นทางบ้านคลองเจริญ อ.เขาคิชฌกูฎ มุ่งหน้า อ.แก่งหางแมว และใช้เส้นทางสายในมุ่งหน้ากลับบ้านในที่ บ้านกร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง แล้วลงมือแยกชิ้นส่วนตัวเครื่อง ล้อแม็ก โพสต์ขายทางออนไลน์ นำเงินที่ได้มาไปใช้หนี้และนำไปซื้อรถ จนมาถูกตำรวจชุดสืบสวนตามมาจับกุมตัวได้ในที่สุด นายอนันต์ อ้างว่าเพิ่งทำเป็นครั้งแรก เพราะตอนแรกไม่คิดจะขโมยแต่พอเห็นประตูรถกระบะฝั่งคนนั่งเปิดทิ้งไว้ จึงวางแผนกับนายสมศักดิ์ขโมยรถ และยังอ้างอีกว่าช่วงที่ต่อสายตรงรถกระบะเพื่อสตาร์ตเครื่องยนต์ ได้เปิดยูทูปดูวิธีการทำ ซึ่งใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงถึงจะสตาร์ตเครื่องยนต์ได้
ทั้งนี้ตำรวจจะมีการสอบสวนขยายผลต่อไป โดยได้ตั้งข้อหากับนายอนันต์และนายสมศักดิ์ ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน