ทั้งนี้การพิจารณาเรื่องดังกล่าว หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้สมาชิกภาพ สส.ของนายธนาธร สิ้นสุดลง สำนักงาน กกต.ได้มีการเสนอเรื่องให้ที่ประชุม กกต. พิจารณาไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง แต่ที่ประชุม กกต. ได้ให้ทางสำนักงาน กกต. นำเรื่องดังกล่าวไปปรับปรุง เนื่องจากเห็นว่าการจะดำเนินคดีอาญากับนายธนาธร แตกต่างจากคดีตัดสิทธิทางการเมืองที่ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยคดีอาญานั้นต้องมีข้อมูลที่ชี้ให้เห็นถึงเจตนา ว่าขณะที่นายธนาธร ยื่นลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่นั้น นายธนาธรรู้ว่าตนมีลักษณะต้องห้ามใช้สิทธิสมัครตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) แต่ยังคงสมัคร พยานหลักฐานประกอบจึงต้องมีน้ำหนัก เพราะการสู้คดีก็ต้องสู้กันถึง 3 ศาล
อย่างไรก็ตาม การแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนจากเหตุนี้ ไม่ใช่นายธนาธรเป็นคนแรกที่ กกต. ดำเนินการ โดยก่อนหน้านี้ ผู้สมัคร สส. ที่ กกต. มีคำวินิจฉัยว่ารู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเพราะมีลักษณะต้องห้าม เช่นสังกัดพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองเดียวไม่ถึง 90 วัน จนถึงวันเลือกตั้ง กกต. ก็จะมอบให้สำนักงาน กกต. ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ทุ่งสองห้อง เช่นเดียวกัน