เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา บริเวณถนนประชาอุทิศ โดยภาพจากกล้องหน้ารถจะเห็นว่ามีรถกู้ภัยกำลังนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล แต่เกิดอุบัติเหตุซ้ำ เนื่องจากเตียงผู้ป่วยที่อยู่ในรถกู้ภัยไถลหล่นลงมาขณะกำลังขับอยู่บนถนน ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ลงมานำผู้ป่วยกลับขึ้นไป โดยมีผู้เห็นเหตุการณ์เข้าช่วยเหลือ
เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความปลอดภัยของผู้บาดเจ็บ และการทำงานของเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ต่อมาทางมูลนิธิกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ต้นสังกัด ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าเป็นความประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร พร้อมบอกว่าในการทำงานปกติแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ประจำรถ 3 คน แต่ขณะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ประจำจุดไปดูแลผู้บาดเจ็บอีกเหตุทำให้คนไม่เพียงพอ ไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลด้านหลัง
ส่วนสาเหตุที่เตียงไถลตกลงมา เนื่องจากตอนที่เจ้าหน้าที่นำเตียงผู้ป่วยขึ้นรถ ได้ยินเสียงเตียงล็อกแล้ว จึงไม่ได้เอะใจและตรวจสอบตัวล็อกซ้ำ เมื่อรถออกตัว ทำให้เกิดแรงกระชาก จนเตียงผู้ป่วยไปกระแทกประตูหลังรถ แล้วตกลงมา
เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยคนดังกล่าว ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากความผิดพลาดของตัวเอง ที่ไม่ได้ตรวจสอบให้ละเอียด โดยวันเกิดเหตุได้รับแจ้งให้ไปช่วยเป็นกำลังเสริม เนื่องจากคนไม่พอ ซึ่งรถกู้ภัยเขามีอาสาสมัครเพียง 2 คน แต่หนึ่งในนั้นเป็นอาสาสมัครสำรอง ไม่พร้อมปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากตัวเปื้อนน้ำมัน ทำให้เหลือเพียงคนเดียวที่ต้องดูแลผู้บาดเจ็บ ประกอบกับรีบนำส่งโรงพยาบาล จึงไม่ได้ตรวจสอบให้รอบคอบ รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น หลังเกิดเหตุเข้าขอโทษครอบครัวผู้บาดเจ็บ และตัวผู้บาดเจ็บแล้ว
ทางมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเหตุการณ์ครั้งนี้ พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวพักงาน 3-6 เดือน และต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่า อาการผู้บาดเจ็บเกิดจากอุบัติเหตุก่อนหน้านี้เพียงอย่างเดียว หรือเกิดขณะที่เตียงหล่นจากรถด้วย
ด้านครอบครัวผู้บาดเจ็บ และตัวผู้บาดเจ็บ ให้อภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เข้าใจว่าเกิดจากความรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล อีกทั้งผู้บาดเจ็บอาการปลอดภัย ไม่ได้รับบาดเจ็บเพิ่ม จึงไม่ติดใจเอาความ