โดยคดีความผิดเกี่ยวกับร่างกายและเพศลดลง 79 คดี, ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ลดลง 54 คดี และความผิดตาม พ.ร.บ.ที่มีโทษทางอาญาลดลง 986 คดี ส่วนยอดการจับผู้กระทำผิดเพิ่มขึ้น 25,697 คดี ซึ่งเป็นผลมาจากการตั้งด่านเคอร์ฟิว และส่งสายตรวจไปตามแหล่งชุมชนต่างๆ
จากสถิติจะเห็นว่าการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กำหนดเคอร์ฟิวห้ามออกนอกบ้าน, ปิดสถานบริการ และห้ามจำหน่ายสุรา ส่งผลให้คดีอาชญากรรมที่เกิดจากการเมาสุราแล้วมาก่ออาชญากรรม เช่น อุบัติเหตุเนื่องจากเมาแล้วขับ และคดีเกี่ยวกับทรัพย์ลดลง เพราะคนอยู่แต่ในบ้าน
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยด้วยว่า แม้สถิติคดีอาชญากรรมส่วนใหญ่จะลดลง แต่คดีเกี่ยวกับการพนันกลับไม่ได้ลดลงตามไปด้วย และในทางกลับกันคดีที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และสื่อออนไลน์กลับเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะคดีฉ้อโกงออนไลน์ หลอกขายสินค้าต่างๆ โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือแอลกอฮอล์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงสั่งการให้ปรับรูปแบบการทำงานให้สอดคล้องกับรูปแบบอาชญากรรมที่เปลี่ยนไป โดยจัดตั้งหน่วยงานพิเศษขึ้นมาสืบสวนและดูแลคดีที่ใช้เทคโนโลยีออนไลน์โดยตรง