นายมานพ บุญชู อายุ 33 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า เป็นสมาชิก ธ.ก.ส.และได้กู้เงินไป 50,000 บาท และได้ผ่อนเงินไปแล้วเป็นระยะเวลา 5 เดือน แต่ต้องการใช้เงินลงทุนเพิ่มจึงทำเรื่องเพื่อนำเงินต้นจำนวน 50,000 บาทและดอกเบี้ย ส่งคืนธนาคารตามที่เจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส. รายนี้แจ้งว่าต้องคืนเงินต้นและดอกเบี้ยจึงจะทำเรื่องกู้เพิ่มได้ จึงนำเงินต้นและดอกเบี้ยคืนและทำเรื่องกู้ใหม่ 100,000 บาท ต่อมาจะขอกู้เพิ่มอีก 200,000 บาท โดยนำเงินต้นของเดิม 100,000 บาทและดอกเบี้ยไปชำระผ่านเจ้าหน้าที่ธนาคาร แต่เมื่อตรวจสอบเมื่อวานนี้(1มิ.ย.63) กลับพบว่า ข้อมูลเงินที่กู้มาเกินกว่าที่กู้จริง ซึ่งยอดเก่า 2 สัญญาแรก 50,000 บาท และ 100,000 บาท ไม่ได้มีการชำระเลยทั้งที่ส่งคืนเงินต้นและดอกไปแล้ว ทำให้ขณะนี้เป็นหนี้สูงถึง 349,996 บาทและมีชำระเพียงแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น จึงคาดว่า เจ้าหน้าที่รายดังกล่าว ยักยอกเอาเงินไปจึงอยากให้มีการชดใช้และรับผิดชอบเงินส่วนที่ยักยอกคืนกลับมาและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รายดังกล่าว
นายประสงค์ ประดิษฐ์ทรัพย์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขาเขาฉกรรจ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้เตรียมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบปัญหาทุจริตดังกล่าวและส่งรายงานไปที่จังหวัดแล้ว โดยเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวซึ่งถูกกล่าวหาว่าทุจริตยักยอกเงินของเกษตรกร ขณะนี้ได้ย้ายไปประจำที่ ธ.ก.ส.สาขาสนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ประมาณ 2 เดือนแล้ว ส่วนการชดใช้หนี้จะต้องให้ผู้ที่กระทำความผิดเป็นผู้ชดใช้ ซึ่งยังต้องรอผลการตรวจสอบ หากพบว่า เจ้าหน้าที่กระทำผิดจริงจะไล่ออกทันที รวมทั้งยังจะส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเกษตรกรในพื้นที่ ต.หนองหว้า จำนวน 500 - 600 คนว่า พบปัญหาเหมือนกับกลุ่มผู้เสียหายกลุ่มนี้ด้วยหรือไม่