แจ้งจับพ่อเลี้ยงล่วงละเมิดทางเพศลูกอายุ 10 ขวบ จ.ชลบุรี
ญาติของเด็กหญิงอายุ 10 ขวบ ประสาน นางสาวปนัดดา วงศ์ผู้ดี ประธานองค์กรทำดี เข้าช่วยเหลือ หลังหลานสาวถูกพ่อเลี้ยงล่วงละเมิดทางเพศมานานกว่า 2 ปี โดยหญิงอายุ 20 ปี พี่สาวของเด็กหญิงอายุ 10 ขวบ ให้ข้อมูลกับ นางสาวปนัดดา ว่าก่อนหน้านี้น้องสาวอาศัยอยู่กับแม่แท้ ๆ และพ่อเลี้ยงที่จังหวัดชัยภูมิ ส่วนเธอทำงานอยู่ต่างจังหวัด ระหว่างที่น้องสาวอยู่ที่จังหวัดชัยภูมิ ถูกพ่อเลี้ยงล่วงละเมิด โดยถูกกระทำตั้งแต่น้องอายุ 8 ขวบ แต่น้องไม่กล้าบอกใคร เพราะถูกพ่อเลี้ยงข่มขู่ว่าจะทำร้าย และยังเคยถูกกดศีรษะลงน้ำจนเกือบเสียชีวิตมาแล้ว จนน้องทนไม่ไหว ตัดสินใจโทรศัพท์เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง เธอจึงปรึกษาเครือญาติ และแอบไปรับตัวน้องสาวมาอยู่ที่จังหวัดชลบุรี เพราะเกรงว่าน้องจะไม่ปลอดภัย
เบื้องต้น ทางญาติได้ไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.เมืองชัยภูมิ แล้ว และได้พาเด็กหญิงอายุ 10 ขวบ ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เพื่อนำมาเป็นหลักฐานออกหมายเรียกพ่อเลี้ยงที่ถูกกล่าวหามาดำเนินคดี ซึ่งญาติเรียกร้องให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หากปล่อยไว้หลานสาวก็จะใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวง เกรงว่าจะถูกพ่อเลี้ยงมาทำอันตราย
นางสาวปนัดดา เปิดเผยว่า ยอมรับไม่ได้ที่เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในสังคม จึงต้องการฝากเตือนว่า หากเด็ก ๆ ที่ถูกกระทำหรือล่วงละเมิดเช่นนี้ ควรจะบอกญาติที่สนิทและไว้ใจ เพราะจะได้จับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
พบอีก ชายต่างชาติวิดีโอคอลสำเร็จความใคร่โชว์ จ.ระยอง
จังหวัดระยอง วานนี้ (4 มิ.ย.) สนามข่าว 7 สี นำเสนอกรณีชายชาวต่างชาติแอดเฟซบุ๊กวิดีโอคอลมาหาหญิงอายุ 22 ปี แล้วสำเร็จความใคร่โชว์ ล่าสุด มีหญิงอายุ 45 ปี แม่ค้าขายของทางออนไลน์ในจังหวัดระยอง ก็ตกเป็นผู้เสียหายในลักษณะเดียวกัน เธอจึงเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ห้วยโป่ง จังหวัดระยอง
หญิงอายุ 45 ปี เล่าว่า เธอกดรับชายชาวต่างชาติคนนี้เป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กได้ประมาณ 1 สัปดาห์ คิดว่าเป็นลูกค้าเพราะเธอขายของออนไลน์ กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 3 มิถุนายน ชายคนนี้ก็วิดีโอคอลมาหา แล้วสำเร็จความใคร่โชว์ คล้ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหญิงอายุ 22 ปี ที่สนามข่าว 7 สี ได้นำเสนอไป แต่ขณะนั้นเธอไม่ได้แคปภาพหน้าจอไว้ เพราะทำไม่เป็น จึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
ตำรวจ สภ.ห้วยโป่ง ได้รับเรื่องไว้ และจะประสานไปที่กระทรวง ICT และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระยอง เพื่อติดตามตรวจสอบกลุ่มชาวต่างชาติที่มีลักษณะตามที่ผู้ร้องทุกข์ให้ข้อมูล ซึ่งคาดว่า 2 คดีที่เกิดขึ้น ผู้ก่อเหตุเป็นบุคคลคนเดียวกัน และน่าจะอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดระยอง