ขณะเดียวกันเมื่อตรวจสอบกลับพบว่ารถที่เช่าไปไม่ถูกใช้งาน และพบว่ารถจอดอยู่ที่อพาร์ตเม้นต์ในแห่งหนึ่งใน อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี จนเมื่อ 21 มิ.ย. พบสัญญาณ GPS จอดนิ่งอยู่ใน อ.เมือง จ.ราชบุรี และทางข้าราชการหญิงคนนี้ได้แจ้งให้มารับรถตามพิกัด GPS แต่เมื่อตามไปกลับไม่พบรถ ซึ่งจุดสุดท้ายที่ตามสัญญาณไปเป็นบริเวณป่า โดยน่าจะมีการถอด GPS ทิ้งในป่า
จากนั้นได้พยายามหาข้อมูลร่วมกับผู้ประกอบการคนอื่น พบว่ามีผู้ถูกหลอกในลักษณะเดียวกันอีกจำนวนมาก โดยพฤติกรรมใช้วิธีการเช่ารถแบบเดียวกัน มีทั้งรถบ้าน และที่เปิดเป็นกิจการรถเช่า ส่วนรถที่เช่าจะเป็นรถหรูราคาหลักล้านบาทขึ้นไป และใช้ลักษระการพูด การขอขยายการเช่าแบบเดียวกัน ไม่ต่ำกว่า 15 คัน บางคนตามรถคืนได้ก็ไม่เอาเรื่อง ตอนนี้เท่าที่ทราบยังมีอีก 4-5 คัน ที่ยังตามไม่เจอ
ผู้เสียหาย เผยอีกว่า จากการตรวจสอบ GPS รถทุกคันจะถูกนำมาจอดที่ร้านเครื่องเสียงแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ราชบุรี แล้วกระจายไปจอดตามบ้านเรือน ซึ่งคนที่เอารถไปจอดนั้นเป็นผู้ชาย แต่เมื่อตรวจสอบกลับไม่พบรถที่เช่าไป นอกจากนี้มีข้อมูลของผู้ประกอบการบางคนที่ได้รถคืน จากการติดตามในสถานที่ต่างๆ ในจ.ราชบุรี แล จ. เพชรบุรี มีอยู่หนึ่งคัน ถูกนำไปจอดที่คาร์แคร์ เป็นการไปจอดจำนำ 1 แสนบาท เชื่อว่าทำเป็นขบวนการใหญ่ มีเจ้าหน้ารัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงเข้าร้องให้กองปราบปรามช่วยติดตามขยายผล ส่วนต้นสังกัดก็ทราบเรื่องแล้ว และอยู่ระหว่างตรวจสอบ และส่วนตัวอยากได้รถคืนเท่านั้น เพราะยังผ่อนไม่หมด
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน บก.ป. รับเรื่องไว้ เพื่อดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอนต่อไป