พ.อ.พิทักษ์พล เปิดเผยว่า การจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลจากสายข่าวว่า นายกองวิเศษจะนำยาไอซ์ไปส่งมอบให้ลูกค้าที่สามแยกไปนครไทย บ้านหัวนายูง อ.ด่านซ้าย จ.เลย จึงได้จัดเจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อยที่ 2213 หรือชุดปฏิบัติการพิเศษ “ซีโรฮันเตอร์” ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ด่านซ้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.247 ด่านซ้าย และเจ้าหน้าที่ชุดสุนัขทหารจากกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี จากนั้นเวลา 20.40 น. วันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้แบ่งกำลังกันเข้าดักซุ่มอยู่บริเวณดังกล่าว พบนายกองวิเศษขับรถกระบะมาจอด แล้วเดินลงรถถือกล่องสีเหลือง-ฟ้า มาวางไว้บริเวณป้ายข้างถนน แล้วกลับขึ้นรถ ขับออกไปอย่างรวดเร็ว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ขับรถเร่งออกติดตามไปจนถึงบ้านพักของนายกองวิเศษ แล้วแสดงตัวขอเข้าตรวจค้น ซึ่งนายกองวิเศษกำลังนั่งรับประทานอาหาร โดยไม่มีอาการตื่นตกใจแต่อย่างใด จากการตรวจค้นตัวพบยาไอซ์ บรรจุอยู่ในถุงพาสติกสีใส ชนิดกดปิด - ดึงเปิด อยู่ในซองโทรศัพท์ กระเป๋าคาดเอว หลังจากนั้นได้ตรวจค้นที่พัก พบยาไอซ์วางปะปนซุกซ่อนอยู่ในกล่องเครื่องมือช่าง จำนวน 6 ถุง น้ำหนักรวม 949.1 กรัม นอกจากนี้ยังพบกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 50 นัด
พ.อ.พิทักษ์พล เผยอีกว่า ผู้ต้องหาเคยรับราชการตำรวจ แต่ถูกจับดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติดเมื่อหลายปีที่ผ่านมา หลังจากพ้นโทษ ก็กลับออกมาร่วมขบวนการค้ายาเสพติดอีก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการใหญ่ เชื่อมโยงกับพ่อค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดแถบปริมณฑล โดยนายกองวิเศษมาเช่าบ้านอยู่ในอ.ด่านซ้าย เพื่อส่งยาไอซ์ต่อ โดยทำในช่วงประกาศเคอร์ฟิว ได้ซุกซ่อนยาไอซ์ไปในรถบรรทุกผักและรถบรรทุกอาหาร เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ ปัจจุบันขบวนการค้ายาเสพติดจะใช้วิธีการลำเลียงแบบกองทัพมดจากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ขนเข้ามาทีละจำนวนมากๆ จะใช้คนในขบวนการไปเช่าบ้านอยู่ตามอำเภอที่เป็นแนวเขตติดต่อกับจ.เลยและจังหวัดใกล้เคียง เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ติดตามสืบทราบได้ยาก หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนขยายผลการจับกุมต่อไป