ส่วนสาเหตุเชื่อว่าน่าจะมาจากการที่เธอซื้อของออนไลน์ โดยชื่อสามีเป็นคนสั่ง แต่เบอร์โทรศัพท์มือถือผู้รับสินค้ากลับเป็นเบอร์ภรรยาของผู้ต้องหา ทำให้ภรรยานายนพสิทธิ์ไม่พอใจ โทรเข้ามาต่อว่า ซึ่งเธอก็แจ้งแก้ไขและอธิบายไปแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาส่งของวันที่ 30 กรกฎาคม บริษัทส่งพัสดุก็ยังโทรไปที่เบอร์เดิม ทำให้ภรรยาผู้ต้องหาไม่พอใจมาก เกิดมีปากเสียงกันอีกครั้ง
ทีมข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านนายนพสิทธิ์ ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร พบ นางกุ้ง เชาว์ไว อายุ 56 ปี แม่ยาย เปิดเผยว่า นายนพสิทธิ์ เป็นครูมวยค่ายมวยชื่อดัง ในจังหวัดกาญจนบุรี ก่อนเกิดเหตุมาเล่าให้ฟังว่า ลูกสาวซึ่งเป็นภรรยาผู้ต้องหา ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ มีปากเสียงกับภรรยาผู้เสียชีวิต เรื่องซื้อสินค้าออนไลน์แล้วใช้เบอร์โทรของลูกสาวเป็นผู้รับสินค้า ซึ่งลูกสาวก็ขอให้แก้ไขให้ถูกต้องหลายครั้ง เพราะเกรงว่าจะถูกนำไปใช้สั่งซื้อของผิดกฎหมาย แต่ก็ยังได้รับโทรศัพท์จากบริษัทส่งสินค้าอยู่เช่นเดิม จนเกิดมีปากเสียงกันรุนแรง
กระทั่งประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนเกิดเหตุ มีรถยนต์สีขาว ซึ่งจำได้ว่าเป็นรถของภรรยาผู้เสียชีวิตขับผ่านหน้าบ้าน มีการบีบแตรลากเสียงยาวคล้ายหาเรื่อง ทำให้ผู้ต้องหาไม่พอใจ จะไปเคลียร์กับผู้เสียชีวิต แต่เธอห้ามไว้ ก่อนจะโทรไปหาผู้เสียชีวิตบอกให้ช่วยปรามภรรยาบ้าง แต่อีกฝ่ายกลับดูหมิ่นทำให้ ผู้ต้องหาไม่พอใจมาก กระทั่งหัวค่ำจึงได้รู้ว่าลูกเขยไปยิงนายสว่างเสียชีวิตแล้ว
พันตำรวจเอกณัฐวุฒิ กันตะยศ ผู้กำกับการ สภ.ท่ามะกา เปิดเผยว่า หลังศาลออกหมายจับนายนพสิทธิ์ จึงนำกำลังติดตามจับกุม โดยเบื้องต้น คาดว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปบ้านเกิดในพื้นที่อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ