ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เปิดโครงการปล่อยกู้สินเชื่อพอเพียงเพื่อเลี้ยงชีพ สามารถกู้ได้สูงสุดรายละไม่เกิน 50,000 บาท จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเงินทุนให้กับผู้ได้รับผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และปัญหาภาวะเศรษฐกิจ ที่เดินทางกลับสู่ภูมิลําเนาได้มีเงินทุนในการสร้างงานสร้างอาชีพ ทั้งอาชีพการเกษตร อาชีพที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตรหรืออาชีพนอกภาคการเกษตร ที่มีลักษณะเป็นอาชีพเสริมเพื่อหารายได้ (ขายของออนไลน์ ขายอาหารตามสั่ง ขายของรถเข็น ร้านซักรีด ร้านเสริมสวย/ตัดผม ร้านซ่อมรถยนต์/จักรยานยนต์ นวดแผนโบราณ)

ธ.ก.ส.ได้กำหนดคุณสมบัติผู้กู้ และรายละเอียดอื่นๆ ไว้ดังนี้
คุณสมบัติผู้กู้
- เป็นเกษตรกร ทายาทเกษตรกร บุคคลในครัวเรือน หรือบุคคลทั่วไปที่ได้รับผลกระทบจาก COVID - 19 และหรือ ปัญหากาวะเศรษฎกิจตกต่ำ และเดินทางกล์บภูมิลําเนา เพื่อแสวงหาแนวทางการประกอบอาชีพใหม่
- ไม่เคยขึ้นทะเบียนเป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส. มาก่อน (กรณีที่มีสมาชิกในครัวเรือนเป็นลูกค้าเดิม ของ ธ.ก.ส. อยู่แล้ว และ ยังไม่แยกการทํากินหรือทรัพย์สินออกจากกันอย่างเน็ตแฉน สามารถขึ้นทะเบียนเป็นลูกค้าเฉพาะกิจและกู้ได้เฉพาะ โครงการนี้เท่านั้น)
- มีแผนการประกอบอาชีพการเกษตรตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง หรืออาชีพอื่นๆ ในลักษณะเพื่อเลี้ยงชีพ ในครัวเรือนซึ่งใช้เงินลงทุนไม่มากนัก
ระยะเวลาจ่ายสินเชื่อ
- ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2554
วงเงินสินเชื่อ
- สูงสุดรายละไม่เกิน 50,000 บาท
การชําระคืน
- ไม่เกิน 12 เดือน นับแต่วันกู้ เว้นแต่มีเหตุพิเศษไม่เกิน 18 เดือน
อัตราดอกเบี้ย
- เดือนที่ 1 - 3 : ร้อยละ 0 ต่อปี
- เดือนที่ 4 เป็นต้นไป : MRR* (ปัจจุบัน MRR เท่านร้อยละ 6.50 ต่อปี)
หลักประกัน
- ใช้ที่ดิน หรือที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่อยู่อาศัยอํานองเป็นประกันหนี้ ให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 95 ของวงเงินจํานอง
- ให้บุคคลตั้งแต่ 1 คนขึ้นไปค้ําประกัน ให้กู้ได้ไม่เกิน 50,000 บาท
- ใช้บุคคลธับรองรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมกัน ให้กู้ตาม โครงการได้ไม่เกิน 50,000 บาท
เรียบเรียงข้อมูลโดย CH7HD Social News
ขอบคุณข้อมูลจาก เว็ยไซต์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร