สำหรับกรณีชายฉกรรจ์ที่เข้าไปทำลายหลักฐานกล้องวงจรปิด ซึ่งสังคมตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเจ้าหน้าที่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนสามารถพิสูจน์ทราบได้จำนวนหนึ่ง และกำลังจะติดตามตัวมาดำเนินคดี
เมื่อถามว่า การสั่งย้าย ผบก.น.5 และ 4 เสือ สน.ทุ่มหาเมฆ เพียงพอแล้วหรือไม่กับเหตุการณ์ดังกล่าว พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า ไม่ใช่แค่การสั่งย้าย 5 เสือ เมื่อออกมาก็ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ต้องยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล นายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แต่อยู่ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ก็คือตนที่ต้องรับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่
เมื่อถามย้ำว่า จะมีการลงโทษที่ร้ายแรงกว่าการสั่งย้ายหรือไม่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า กำลังดำเนินการอยู่ ก็ให้เป็นไปตามระเบียบ กฎเกณฑ์ โดยพิจารณาอยู่ 3 ส่วน คือ บ่อนพนัน, การทำลายหลักฐาน ขนย้ายข้าวของในที่เกิดเหตุ, และคดีฆาตกรรม ทั้งนี้ยืนยันว่าจะทำงานอย่างตรงไปตรงมา ขอเวลาในการทำงาน เพราะคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาในคดีการพนัน ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการทำลายหลักฐาน หรือเคลื่อนย้ายพยานหลักฐานออกจากที่เกิดเหตุหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง ซึ่งทุกคนยังไม่มีใครออกมาแสดงตน หากใครมีเบาะแส ตำรวจก็ยินดี และขอขอบคุณ เพราะจะทำให้คดีเกิดความกระจ่างกับสังคม
เมื่อถามย้ำว่าจะยืดอกรับผิดเองหรือไม่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในท้องที่ของตนเอง ตนก็ต้องรับเพราะเป็นผู้บัญชาการ และต้องมีมาตรการป้องกันปราบปราม หากทำให้ประชาชนผิดหวัง ขออภัย และหากตรวจสอบแล้วพบว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องจะดำเนินคดี แต่ขอทำให้เรื่องทั้งหมดเกิดความกระจ่างก่อน