ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเนตร เดินทางมาถึงก่อนเวลา เพื่อเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการ โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับผู้สื่อข่าว และมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด แม้เจ้าตัวจะสวมใส่หน้ากากอนามัย
ต่อมานายอรรถพล เดินทางมาถึง และให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าชี้แจงว่า ได้รับหนังสือเชิญเมื่อวานนี้ (13 ส.ค. 63) จึงมาชี้แจงเรื่องความเห็นที่เสนอกับอัยการสูงสุด ส่วนท่านจะสอบถามอะไรบ้าง ยังไม่ทราบรายละเอียด
ขณะเดียวกัน นายอรรถพล ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีส่งหนังสือบันทึกข้อความให้ความเห็นทางคดีกับนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด ว่า ที่ผ่านมาหลังส่งหนังสือไปก็คุยกันตลอด แต่ท่านขอไม่ให้ข่าว ก็เลยขอไม่เปิดเผยโดยมารยาท
เมื่อถามว่ามีคณะกรรมการหรือคณะกรรมาธิการตรวจสอบคดีบอสชุดไหนเชิญนายวงศ์สกุลไปชี้แจงบ้างหรือไม่ นายอรรถพล ตอบว่า ของอัยการสูงสุดตนไม่ทราบ ส่วนของตนเพิ่งได้รับเชิญเป็นครั้งแรก คณะกรรมาธิการของสภาไม่เรียก คงเพราะตนไม่เกี่ยวข้องในคดี แต่ชุดของ นายวิชา คงมองเรื่องระบบ กับกรณีการทำหนังสือถึงอัยการสูงสุด ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้ง คุยกันลงตัว เพียงแต่เราให้ความเห็นเพิ่มเติมจากการได้เอกสารจากผู้หวังดี ที่ตนได้รับเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 63 หลังจากคณะทำงานอัยการแถลงชี้แจง ตนก็รีบทำหนังสือให้อัยการสูงสุดดูประเด็นนี้ แต่ไม่แน่ใจ เอกสารจริงหรือไม่ เพราะไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสำนวน
โดยเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อดีตอัยการสูงสุด เคยมีความเห็นยุติการพิจารณาร้องขอความเป็นธรรมคดีนี้แล้ว และมีการพูดถึง ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม เลยทำหนังสือถามอัยการสูงสุดว่าได้ดูเอกสารนี้หรือไม่ ถ้าอัยการสูงสุดเคยมีความเห็นแล้ว การจะสั่งอะไรต่อไปน่าจะเป็นกรณีที่รองอัยการสูงสุดต้องเสนออัยการสูงสุดก่อน ตนอยากยกตัวอย่างง่ายๆ ว่านายวงศ์สกุลสั่งอะไรไปแล้ว และอีกสัปดาห์รองอัยการสูงสุดมาสั่งทับ จะถูกต้องหรือไม่
ทั้งนี้เมื่อถามว่าสรุปกระบวนการทำถูกต้องหรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า ตามที่เสนอไป แต่ตนยังไม่รู้ข้อเท็จจริง
ด้าน นายวิชา เปิดเผยก่อนเข้าประชุมว่า ได้เชิญ ทั้งนายอรรถพล และนายเนตร มาให้ข้อมูล เพื่อสอบถามและทบทวนที่ทั้งสองท่านเคยให้ถ้อยคำไว้ และอาจจะมีอะไรเพิ่มเติมให้กับคณะกรรมการเพื่อความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และในวันนี้ก็จะได้ทราบกันอีกครั้งว่าจะเชิญใครมาให้ถ้อยคำต่อไป ขณะนี้การทำงานของคณะกรรมการมีความคืบหน้าไปพอสมควร ซึ่งเมื่อส่งรายงานการทำงาน 10 วันแรกให้นายกรัฐมนตรี ท่านได้รับทราบและมีความพอใจ และได้มีการพูดคุยเป็นการภายในว่าถ้าอยากรู้อะไรเพิ่มเติมให้แจ้งคณะกรรมการให้ทราบ
สำหรับกรณี พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น นักวิทยาศาสตร์สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปชี้แจงต่อคณะกรรมาการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นตำรวจที่ให้ความเห็นเรื่องความเร็วรถของนายวรยุทธ ได้ 177 กม./ชม. ก่อนกลับคำให้การเป็น 79.22 กม./ชม. นั้น ตนได้รับทราบแล้ว โดยมีผู้ส่งคลิปวีดีโอมาให้ดู ซึ่งได้ติดตามตรวจสอบแล้วจะได้เรียก พ.ต.อ.ธนสิทธิ มาให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการในสัปดาห์หน้า ส่วนเรื่องการขอคุ้มครองพยาน เจ้าตัวยังไม่ได้ร้องขอมาแต่อย่างใด ดังนั้นเราจะไปทำล่วงหน้าไม่ได้ ต้องมีการร้องขอเสียก่อน