สำหรับข้อเสนอ 5 ประเด็น ประกอบด้วย 1. ยกคดีขึ้นเพื่อดำเนินการใหม่ โดยเฉพาะคดีที่ยังไม่ขาดอายุความ ซึ่งเรื่องนี้ดำเนินการได้อย่างแน่นอน มี 2-3 คดี 2. การดำเนินคดีและดำเนินการทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง 3. ในบางเรื่องที่ยังไม่ชัดเจนว่ามีความผิด แต่ต้องตรวจสอบพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องในเชิงจริยธรรม 4. ซักซ้อมเกี่ยวกับความเข้าใจ เรื่องการมอบอำนาจของผู้บังคับบัญชา เมื่อรับมอบไปแล้วจะรับผิดชอบอย่างไร อาจต้องแก้ไขกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของอัยการนั้นเป็นองค์กรอิสระ แต่ส่วนที่เกี่ยวกับตำรวจ นายกรัฐมนตรีดูแลอยู่สามารถสั่งการได้ ในส่วนของทนายความก็มีสภาทนายความดูแลอยู่ ท้ายที่สุดรัฐบาลจะให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็นศูนย์กลางติดตามความก้าวหน้าและดูแลประสานงาน พร้อมรายงานให้ประชาชนรับทราบเป็นระยะ และ5 คณะทำงานขอขยายเวลาการทำงานอีก 30 วัน เพื่อเสนอแนะการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายในเชิงปฏิรูปให้เกิดความชัดเจน ในระหว่างนี้หากใครมีเบาะแสสามารถแจ้งเพิ่มเติมได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า ต้องทำให้ชัดเจน เพราะคดีนี้คาใจประชาชนและสังคม ตนไม่อยากให้ประชาชนเกิดความไม่เชื่อมั่นในระบบและกระบวนการกฎหมาย หรือกระบวนการยุติธรรมของไทย เพราะหากต้องอยู่แบบไร้กฎหมาย บ้านเมืองก็จะกลายเป็นอนาธิปไตย เกิดความเสียหายต่อประเทศ ความเชื่อมั่นจากต่างประเทศก็เสียไป เศรษฐกิจไม่มั่นคง การลงทุนก็ลดลง เป็นชัยชนะท่ามกลางซากปรักหักพัง
