บรรยากาศการชุมนุมที่ท้องสนามหลวง ของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เริ่มกันตั้งแต่ 06.00 น. โดยแนวร่วมผู้ชุมนุมได้นำเต็นท์มาวางหน้าเวทีปราศรัย ที่อยู่ฝั่งหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากนั้นก็ใช้ผ้าใบกั้นรอบเต็นท์ ก่อนจะใช้เครื่องขุดเจาะคอนกรีต เจาะพื้นสนามหลวง เพื่อฝังหมุด คณะราษฎร 2 ขนาด 11.61 นิ้ว
จากนั้น 06.27 น. นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ขึ้นเวทีปราศรัยกล่าวไว้อาลัยให้ผู้ที่เสียชีวิต พร้อมอัญเชิญดวงวิญญาณของ นายปรีดี พนมยงค์ จอมพล ป.พิบูลสงคราม และสมาชิกคณะราษฎร และผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุมต่าง ๆ ให้เป็นสักขีพยานการปักหมุดคณะราษฎร 2 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ ว่าคณะราษฎรยังไม่เสียชีวิต
06.39 น. แกนนำถือฤกษ์ประกอบพิธีกรรมปักหมุด ลงบนพื้นสนามหลวงที่เจาะเป็นหลุมไว้ และใช้ปูนซีเมนต์เทรอบ ๆ หมุด เสร็จพิธีกรรมแล้ว ผู้ชุมนุมก็หันหน้าไปทางศาลหลักเมือง พนมมือไหว้ พร้อมกล่าวสาปแช่ง ผู้ใดรื้อถอนหมุด มีลาภขอให้เสื่อมลาภ มียศขอให้เสื่อมยศ
ถัดมา 06.55 น. นาย พริษฐ์ อ่านประกาศคณะราษฎร พ.ศ.2563 ฉบับที่ 1 พร้อมประกาศข้อเรียกร้อง 10 ข้อ และยุติกิจกรรมบริเวณท้องสนามหลวง ก่อนประกาศรวมพลเวลา 08.00 น. เคลื่อนขบวนไปยื่นข้อเรียกร้อง 10 ข้อ
08.30 น. พลตำรวจตรี เมธี รักพันธ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ควบคุมกำลังตำรวจ บล็อกพื้นที่ที่หน้าศาลฎีกา ถนนราชดำเนิน ทำให้ประจันหน้ากับผู้ชุมนุม แต่แล้ว นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง 1 ในแกนนำ เจรจาตำรวจ เพื่อขอให้เปิดทางให้ผู้ชุมนุมเดินไปวัดพระแก้ว
หลังเจรจาประมาณ 15 นาที พลตำรวจโท ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นตัวแทนเจรจา และเปิดทางให้ นางสาว ปนัสยา กับแกนนำอีก 1 คน เดินเท้าเข้าไปหลังแนวกั้น ก่อนที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะเป็นตัวแทนรับหนังสือข้อเรียกร้องจาก นางสาว ปนัสยา เพื่อยื่นต่อประธานองคมนตรี
ทั้งนี้ นางสาวปนัสยา ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากนี้ต้องติดตามว่า ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะดำเนินการให้ตามข้อเรียกร้องหรือไม่ และหากไม่ดำเนินการ ครั้งหน้าก็จะได้เจอกัน ก่อนที่ นางสาวปนัสยา จะประกาศยุติชุมนุม
ขณะที่ นายพริษฐ์ ประกาศชัยชนะการชุมนุม หลังยื่นข้อเรียกร้อง 10 ข้อ และนัดชุมนุมอีกครั้งวันที่ 14 ตุลาคมนี้ จากนั้นผู้ชุมนุมก็ทยอยเดินทางกลับ