สำหรับในพื้นที่อำเภอชะอำ ฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ส่งผลทำให้บริเวณรางรถไฟ สถานีรถไฟชะอำ ถูกน้ำท่วมขังทั้ง 2 ฝั่ง ยาวประมาณ 4 กิโลเมตร โดยรถไฟยังสามารถวิ่งได้ แต่ต้องเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ
ขณะที่จังหวัดสระแก้ว เมื่อคืนที่ผ่านมามีฝนตกลงมาเป็นช่วงๆ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำท่วมขังหลายจุด ได้แก่ อำเภอวังสมบูรณ์ คลองหาด และวังน้ำเย็น โดยเฉพาะที่อำเภอวังน้ำเย็น บ้านเรือนประชาชน และโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ต่ำถูกน้ำท่วม รวมถึงถนนถูกน้ำท่วมจนรถไม่สามารถผ่านได้ เจ้าหน้าที่เร่งขุดทางระบายน้ำ เพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่
ส่วนที่จังหวัดจันทบุรี มีฝนตกหนักติดต่อกัน 2 วัน ทำให้กลางดึกที่ผ่านมา เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและสวนผลไม้ในพื้นที่ตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว หลายหมู่บ้านถูกน้ำป่าจากเทือกเขาสอยดาว ที่เอ่อล้นคลองไหลเข้าท่วมชุมชน
เช่นเดียวกับที่อำเภอโป่งน้ำร้อน น้ำป่าจากคลองหลายสายไหลมารวมกัน เป็นมวลน้ำก้อนใหญ่ไหลลงคลองโป่งน้ำร้อน ทำให้ฝายกักเก็บน้ำหลายแห่งเอ่อล้นทะลักท่วมพื้นที่ตลอด 2 ฝั่งคลอง จนถึงขณะนี้ก็ยังมีฝนตกในหลายพื้นที่ เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัย
ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. เปิดเผยว่า จากปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ (10 ต.ค.) ทำให้ประเทศไทยเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากหนักที่สุด ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา สระแก้ว กาญจนบุรี และชัยนาท รวม 17 อำเภอ 36 ตำบล 93 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 479 ครัวเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว
โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป ซึ่งประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน สามารถขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง