คนแรก เปิดเรื่องมาชิงเป็นเปรตก่อนใครเพื่อน ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง ผู้บุกเบิกการแต่งเอฟเฟกต์เปรตและท่าทางต่าง ๆ ของกองถ่าย ซึ่ง ทัช ต้องนอนนิ่ง ๆ ให้ทีมเอฟเฟกต์แปลงโฉมทาตัวสีดำ ตกแต่งเลือดด้วยสีแดง รวม ๆ กว่า 2 ชั่วโมง สำหรับเปรตตนนี้ชื่อ "วันตาสาเปรต" ตอนเป็นคนโกงธรณีสงฆ์ ตายไปตัวแห้งเหี่ยว ปากเท่ารูเข็ม มือใหญ่แบกแผ่นดินทูนเหนือหัว เป็นเปรตที่กินของเหม็น เช่น อาเจียน เสมหะ เป็นอาหาร
เปรตตัวต่อมา "คูณปบาทเปรต" ตอนเป็นคนเป็นชู้แล้วหนึ่ง โกงธรณีสงฆ์อีกหนึ่ง ตายไปเป็นเปรตที่ไฟลุกท่วมตัวตลอดเวลา กินซากสัตว์เป็นอาหาร ซึ่งเบื้องหลังการถ่ายทำทีมงานก็ทำไส้สุนัขปลอมได้น่าสะอิดสะเอียน แต่ แก้ว อภิรดี ก็ทุ่มเทเล่นเหมือนจริง และยังต้องปรบมือให้กับสปิริตนักแสดงที่ถึงแม้จะแพ้สีทาหน้า แต่เธอก็ไม่ถอย ไม่บ่น
เปรตมุก รับบทโดย แพร อาภัสสรา เจอปัญหาใหญ่กับการแต่งเอฟเฟกต์เพราะความขาวออร่า เพราะกว่าจะดำมืดได้ขนาดนี้ต้องทาสีดำซ้ำ ๆ ทับกันหลายรอบ และต้องแปะชิ้นเนื้อที่ปากแต่งให้ปากเท่ารูเข็ม เพราะ "สุจิมุขเปรต" ตอนเป็นคนไม่ทำทานไม่พอ ยังขัดขวางการทานของผู้อื่นด้วย เป็นเปรตที่ท้องใหญ่และร้องโหยหวนทั้งวัน
ส่วนเปรตที่แฟน ๆ กล่าวขวัญว่า เท่สุด ๆ ต้องคนนี้ "มหิทธิกาเปรต" ตอนเป็นพระชอบเก็บของทำบุญไว้กินไว้ใช้คนเดียว พอตายกลายเป็นเปรตจึงต้องกินอุจจาระ กินฉี่ เป็นอาหาร ไม่ก็ขูดเนื้อตัวเองกิน เบื้องหลังการแต่งเอฟเฟกต์เปรตตนนี้ จึงเน้นไปทางเอฟเฟกต์แผลเหวอะหวะ แต่ที่ยากสำหรับ มอส พิเชษฐ์ ผู้รับบทนี้ คือ ท่าทางการเป็นเปรต
วันนี้มี 4 ตน พรุ่งนี้มาดูอีก 4 ตน ที่เรียกว่าเป็นเปรตตัวจี๊ดของเรื่อง ส่วนคืนนี้อย่าพลาดชม "เงาบุญ" กันด้วย
ดูละคร เงาบุญ ย้อนหลัง ได้ที่ : เงาบุญ