พลตำรวจตรี ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ตำรวจได้สอบสวนพยานในที่เกิดเหตุไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปาก ทราบว่ามีการทะเลาะเบาะแว้งกันมาตั้งแต่ฝั่งธนาคารไทยพาณิชย์ หลังจากเลิกชุมนุมได้มาถกเถียงกันต่อ แล้วมีการทะเลาะวิวาทกัน
เบื้องต้น พบว่าเป็นกลุ่มการ์ดของคณะราษฎร ที่มาจากวิทยาลัยย่านมีนบุรี ส่วนผู้บาดเจ็บมาจากย่านปทุมธานี ซึ่งเป็นกลุ่มการ์ดด้วยกันที่ทะเลาะกันเอง ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดและคลิปจากผู้สื่อข่าวและประชาชนที่อยู่บริเวณนั้นบันทึกภาพไว้ โดยทราบว่าเป็นการทะเลาะกันด้วยเรื่องงาน ไม่ได้มีกลุ่มอื่นเข้ามาแฝงตัว
รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า การชุมนุมถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ต้องเป็นการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ การนำอาวุธเข้ามาจะทำให้เป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลมีมาตรการต่าง ๆ ในการดูแลความเรียบร้อย รวมถึงการสืบสวนสอบสวน และจับผู้กระทำผิด หลังจากนี้อาจจำเป็นต้องมีมาตรการอื่น ๆ เพิ่มขึ้น
ขณะที่ การนัดชุมนุมของกลุ่มราษฎรในวันนี้ (27 พ.ย.) ที่แกนนำประกาศว่าจะยกระดับการชุมนุมนั้น รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ไม่ได้กังวล แต่ขอฝากเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมว่า แม้การชุมนุมจะเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ผู้จัดการชุมนุมต้องเข้มงวดกับการ์ดของตัวเอง จะต้องตรวจอาวุธ อุปกรณ์ สิ่งของ ถ้ามากระทำผิดเช่นนี้ และมีเหตุรุนแรงขึ้น ก็อาจทำให้ผู้ร่วมชุมนุมถอนตัว ขณะที่ตำรวจเองก็ต้องมีมาตรการและดำเนินการตามกฎหมาย
ส่วนกรณีการวางตู้คอนเทนเนอร์เป็นแนวกั้นโดยรอบพื้นที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์นั้น รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ได้เคลียร์ออกจากพื้นที่ทุกจุดแล้ว