เจ้าหน้าที่เมียนมาได้สอบสวนหาผู้เสี่ยงสัมผัสโรค 33 คนใน จ.เชียงตุง ซึ่งผู้ป่วยมีประวัติเดินทางไปท่องเที่ยว และตรวจผู้ใกล้ชิดเกือบ 30 คนใน จ.ท่าขี้เหล็ก ผลปรากฎว่าพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 6 คน เป็นชายและหญิงอายุระหว่าง 20-27 ปี รวม 5 คนซึ่งพักอาศัยอยู่ในตัว จ.ท่าขี้เหล็ก และมีประวัติเดินทางไปเที่ยวเมืองเชียงตุงร่วมกับหญิงผู้ติดเชื้อวัย 20 ปี เมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ก่อน ส่วนอีกรายเป็นเด็กหญิงอายุ 8 ขวบที่ได้สัมผัสโรคกับกลุ่มคนดังกล่าวขณะเข้าไปท่องเที่ยวที่เชียงตุง รวมมีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 9 คน ทั้งหมดรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลท่าขี้เหล็ก
ล่าสุดมีรายงานพบผู้ติดเชื้อจากกลุ่มเสี่ยงสัมผัสโรคหญิงอายุ 20 ปี เพิ่มอีก 8 คน ส่งผลให้ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อใน จ.ท่าขี้เหล็ก แล้วรวมทั้งสิ้น 15 คน ทางการท่าขี้เหล็กได้เพิ่มความเข้มงวดมาตรการป้องกันการระบาดอย่างหนัก ทั้งเรื่องการสวมใส่หน้ากากอนามัย การห้ามจำหน่ายสินค้าตามข้างทาง และให้ปิดสถานบันเทิง ตั้งแต่ 6โมงเย็นเป็นต้นไป ทั้งยังคงประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกนอกเคหะสถานตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึง4นาฬิกาด้วย และกรณีจะมีการเดินทางจากนอกพื้นที่เข้าไปยังตัวเมืองจะต้องผ่านการตรวจคัดกรองและกักดูอาการนาน 21 วัน ณ ศูนย์กักกันโควิค-19 ห่างจากชายแดนประมาณ 2 กิโลเมตรอีกด้วย
ในส่วนของประเทศไทย ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร ทหาร ตำรวจ สาธารณสุขยังคงเข้มงวดป้องกันการลักลอบข้ามแดนตามแนวชายแดน รวมถึงการตรวจตรารถขนส่งสินค้าเข้าออก ตรงสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 มีการฉีดพ่นแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ และเจลล้างมือให้ทั้งคนขับและรถขนส่งสินค้าข้ามแดนทุกคัน เพื่อป้องกันไวรัสโควิค-19 ที่กำลังเริ่มระบาดอย่างหนักในท่าขี้เหล็ก