เมื่อเข้าไปถึงบ้าน เจ้าหน้าที่สอบถามนางประทีป ซึ่งอยู่กับหลานๆ และคนในครอบครัว ซึ่งทั้งหมดอยู่ในอาการดีใจ ที่ได้รับการช่วยเหลือออกมา โดยเจ้าหน้าที่ได้นำเสื้อชูชีพใส่ให้ ก่อนนำตัวนางประทีปออกมาก่อน จากนั้นได้นำหลานๆ ของนางประทีป ฝ่ากระแสน้ำที่ยังไหลเชี่ยว ออกมาได้อย่างปลอดภัยทุกคน ท่ามกลางความลุ้นระทึกของผู้ที่พบเห็น
นางประทีปบอกว่า เกิดน้ำหลากเข้าท่วมพื้นที่รอบบ้านอย่างรวดเร็ว โดยหลานๆ ที่โตแล้ว 2-3 คน ฝ่าน้ำออกมาได้ แต่เธอและหลานที่ยังเล็กไม่สามารถออกมาได้ จึงต้องอยู่ด้วยกันในบ้าน หวังว่าน้ำจะลด แต่น้ำกลับเพิ่มระดับท่วมสูงมากขึ้น เคราะห์ดีที่เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ ตอนนี้เธอและหลานๆ ดีใจมากที่ถูกช่วยออกมาได้อย่างปลอดภัยทุกคน
สำหรับสถานการณ์โดยรวมในอำเภอทุ่งสง ช่วงเช้า ที่ผ่านมาระดับน้ำเริ่มลดลงมาก เพราะฝนได้หยุดตกตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
ส่วนพื้นที่บริเวณทางเข้าท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ถูกกระแสน้ำป่าจากต้นน้ำตกพรหมโลก และน้ำตกอ้ายเขียว ในอำเภอพรหมคีรี ไหลหลากเข้าท่วมรอบสนามบิน ระดับน้ำสูงประมาณ 0.8 - 1.5 เมตร โดยเฉพาะเส้นทางสายหลักเข้าสู่สนามบิน ริมถนนบางปู-เบญจม ตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช
ส่วนปฏิบัติการทางการบินยังคงเป็นไปตามตารางปกติ เนื่องจากตัวรันเวย์ แทกซี่เวย์ ลานจอดเครื่องบิน รวมทั้งอาคารผู้โดยสารยังไม่ได้รับผลกระทบ ขณะที่กองพันทหารสื่อสาร 24 กองทัพภาคที่ 4 ได้จัดรถเคลื่อนย้ายกำลังพลขนาดใหญ่มารับส่งผู้โดยสาร เข้าออกสนามบินไปส่งยังจุดปลอดภัย
ด้านพื้นที่แนวทิศตะวันออกของเมือง ซึ่งอยู่ใกล้ทะเลและเป็นจุดติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ของกรมชลประทาน ที่เร่งระบายน้ำลงสู่อ่าวไทย ระดับน้ำเริ่มลดลงบ้างแล้ว ซึ่งกรมชลประทานได้ส่งเจ้าหน้าที่ตั้งวอร์รูมวิเคราะห์เส้นทางน้ำ เพื่อเร่งผลักดันน้ำออกจากเมืองให้เร็วที่สุด เนื่องจากขณะนี้เขตเศรษฐกิจของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ประกอบกับวันนี้ (3 ธ.ค.) มีน้ำทะเลหนุนขึ้นมา ทำให้ระดับน้ำไม่ลดลง เกิดผลกระทบเป็นอย่างมากกับประชาชน
ส่วนที่ย่านชานเมือง และในอำเภออื่นๆ น้ำที่ท่วมตามหมู่บ้านชุมชน ยังสูงเกือบทุกอำเภอ ความสูงของน้ำกว่า 1 เมตร
ทหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ นำกำลังไปช่วยเหลือประชาชนตามจุดต่างๆ และเร่งอพยพออกจากพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมหนักแล้ว ขณะที่ล่าสุด มีรายงานว่า พบผู้เสียชีวิตจากวิกฤตอุทกภัยในครั้งนี้แล้ว 5 คน