โควิดลาม 59 จังหวัด ร้อยเอ็ดไข่แตก สาวคาราโอเกะหอบเชื้อมาจากศรีราชา

วันนี้ ( 12 ม.ค.64 ) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( โควิด-19 ) เปิดเผยว่าขณะนี้ภาพรวมการติดเชื้อโควิด-19 ลามไปใน 59 จังหวัด โดยล่าสุด จ.ร้อยเอ็ด พบผู้ติดเชื้อ 1 คน เป็นหญิงไทยอายุ 48 ปี มีประวัติทำงานในร้านคาราโอเกะ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อเดินทางมาถึง จ.ร้อยเอ็ด พบว่ามีอาการป่วย จึงเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ผลตรวจพบติดเชื้อโควิด ขณะที่กราฟผู้ติดเชื้อเป็นรายสัปดาห์ยังคงพุ่งสูงเป็นแนวชัน พบผู้ติดเชื้อเพิ่มใน จ.สมุทรสาคร 51 คน และพบจากการตรวจเชิงรุกในชุมชนอีก 125 คน และพบผู้ติดเชื้อเพิ่มใน กทม.จำนวน 31 คน อ่างทอง 6 คน สมุทรปราการ 9 คน และยังมีกลุ่มก้อนที่รอการสอบสวนโรคอีกจำนวนหนึ่ง สถานการณ์ในขณะนี้จึงยังไว้วางใจไม่ได้  

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่าขอส่งกำลังใจไปให้จังหวัดที่เป็นกลุ่มสีขาว ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ จำนวน 18 จังหวัด ขอให้คุมสถานการณ์ไม่พบผู้ติดเชื้อต่อไปให้ยาวนานที่สุด ขณะที่ 10 จังหวัด มีผู้ป่วยมากกว่า 50 คน ขึ้นไป ได้แก่ สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง กทม. สมุทรปราการ จันทบุรี นนทบุรี นครปฐม อ่างทอง และปทุมธานี ต้องขอความร่วมมือประชนร่วมกันดึงกราฟผู้ติดเชื้อให้ต่ำลง และประชาชนในกลุ่มจังหวัดสีแดง หากเดินทางไปจังหวัดอื่น อาจไม่ได้รับความสะดวก ถูกตั้งข้อสังเกตและเพ่งเล็ง เมื่อเดินทางมายังจังหวัดปลายทางอาจต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือกติกาของแต่ละจังหวัด และกักกันตัวเองในบ้านพัก 14 วัน

“ผมแม้จะทำงานในกระทรวงสาธารณสุข ตั้งอยู่ใน อ.เมืองนนทบุรี และมีบ้านพักอยู่ใน อ.ปากเกร็ด แต่ได้รับการยืนยันว่าไม่ต้องกักกันตัว เพราะพื้นที่ซึ่งพบการระบาดจำนวนมาก อยู่ใน อ.บางใหญ่และ อ.บางบัวทอง”นพ.ทวีศิลป์กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่าสำหรับการลงพื้นที่ตรวจราชการใน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามคืบหน้าการจัดตั้งโรงพยาบาสนาม ใน จ.อุบลฯ ซึ่งใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการระบาด ถ้ามีผู้ป่วยไม่มากจะใช้เตียงในโรงพยาบาลชุมชน ทั้งนี้ ใน จ.อบุลฯ มีระบบค้นหาและมาตรการป้องกันที่ดี  อสม.และผู้ใหญ่บ้าน จะทำทะเบียนติดตามผู้เดินทางเข้ามาในจังหวัด จำนวน 22,613 คน แยกเป็นผู้เดินทางมาจากจังหวัดเสี่ยงสูงกว่า 1 หมื่นคน ให้กักตัวที่บ้าน และสุ่มตรวจหาเชื้อ โดยตรวจพบผู้ติดเชื้อแล้ว 3 คน รักษาหายกลับบ้านได้แล้ว 1 คน ส่วนผู้ป่วยอีก 2 คน ยังอยู่ใน  รพ. 1 คน มีประวัติเชื่อมโยงกับ จ.สมุทรสาครและ จ.นนทบุรี โดยผู้ป่วยรายล่าสุด อายุ 62 ปี อาการหนัก ทำให้มีผู้เสี่ยงสูงเกือบ 100 คน และกลุ่มเสี่ยงต่ำ 70-80 คน