หลังเกิดเหตุ น.ส.โม ผู้เสียหาย ได้นำเรื่องนี้มาเล่ากับญาติที่มาเยี่ยมและปรึกษากัน ก่อนจะนำเรื่องดังกล่าวไปแจ้งต่อ พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก. สภ.บ่อผุด เพื่อเอาผิด และให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวให้ถึงที่สุด
ต่อมา พ.ต.ต.แดนชัย บุญธรรม สารวัตร(สอบสวน) สภ.บ่อผุด ได้แจ้งดำเนินคดีกับ ด.ต. คนดังกล่าว ในข้อกล่าวหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด, เป็นเจ้าพนักงานมีตำแหน่งหน้าที่ควบคุมดูแลผู้ที่ต้องขังตามอำนาจเจ้าพนักงานสอบสวน หรือ ของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญากระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นอยู่ในระหว่างคุมขังนั้นหลุดพ้นจากการคุมขังไป”
ล่าสุด พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นจาก พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งภายหลังพนักงานสอบสวน ซึ่งมี พ.ต.อ. ยุทธนา เป็นผู้รับเรื่องร้องทุกข์ด้วยตนเอง ได้รวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงสอบปากคำผู้เสียหาย เชื่อว่าน่าจะมีมูลความจริง จึงได้แจ้งข้อหา ด.ต. นายนี้ และขณะนี้นำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย พร้อมนำตัวผู้เสียหายส่งตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเกาะสมุย
พล.ต.ต.สาธิต เผยว่า ได้มีคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ 14/64 ลงวันที่ 14 ม.ค. 64 ให้ ด.ต. คนดังกล่าว ออกจากราชการไว้ก่อน และได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง โดยมี พ.ต.อ.ไพศาล สังข์เทพ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เป็นหัวหน้า เข้าสอบสวนวินัยโดยให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน
พล.ต.ต.สาธิต กล่าวด้วยว่า ขณะนี้กระบวนการสอบสวนปากคำ ด.ต. คนดังกล่าว ให้การรับสารภาพในบางส่วน แต่ทางพนักงานสอบสวนเองก็มีพยานหลักฐานที่บ่งชี้ว่า ด.ต. คนนี้ เป็นผู้ก่อเหตุ เนื่องจากมีพยานหลักฐานว่ามีพฤติกรรมนำผู้ต้องขังออกจากห้องควบคุม อย่างไรก็ตาม ด.ต. นายนี้ ถือว่าเป็นผู้ถูกกล่าวหา จึงจะสามารถให้ปากคำหรือไม่ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนก็ได้ ซึ่งจะต้องเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ตนในฐานะผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งในส่วนของผู้เสียหาย และผู้ถูกกล่าวหา แม้ว่าผู้ถูกกล่าวหาจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของตนก็ตาม