โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ระบุว่า ขณะนี้จ.บุรีรัมย์ ยังมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รอบใหม่ เพียง 1 คน ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนางรอง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางจังหวัดได้ประกาศคุมเข้มผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่สีแดง 28 จังหวัด หากเข้ามาใน จ.บุรีรัมย์ จะต้องรายงานตัวกับผู้ใหญ่บ้าน ประธานชุมชม อสม. หรือศูนย์คัดกรองโควิดในพื้นที่ ทำการตรวจหาเชื้อโควิด และจะต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน
แต่กลับมีผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง คือ ชายอายุ 33 ปี ชาว ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ อาชีพรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเดินทางมาจาก จ.อ่างทอง ที่ถูกประกาศเป็นพื้นที่สีแดงหรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดตามประกาศ สบค. แต่ไม่ได้รายงานตัว ไม่มีการตรวจหาเชื้อ ทั้งไม่กักตัว แถมยังไปตั้งวงดื่มแอลกอฮอล์กับบุคคลอื่น จากนั้นเมื่อเดินทางกลับไปทำงานที่ จ.อ่างทอง จึงตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด -19 ซึ่งถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายกับชายคนดังกล่าว ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 วัน หรือปรับไม่เกิน 5 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตร 368
ด้านนายวิทิต สฤษฎีชัย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด กล่าวว่า จากข้อมูลไทม์ไลน์พบว่าชายคนดังกล่าว เดินทางมาที่ อ.ปะคำ ด้วยรถยนต์ส่วนตัวเพื่อมาร่วมงานศพที่บ้าน พูดคุย ทักทาย กอดญาติ และเข้าไปเคารพศพโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย ทั้งยังร่วมวงดื่มเหล้ากับบุคคลอื่นในงานด้วย โดยไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรค ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ม.ค. สำนักงานสาธารณสุขอำเภอปะคำ ได้รับแจ้งว่าชายคนดังกล่าว เป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามป่าโมก มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันจากบ่อนไก่ จ.อ่างทอง ด้วย ทางจังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้ออกค้นหาผู้สัมผัส ผู้ป่วยรายนี้ตาม Timeline พบมีผู้สัมผัสทั้งหมดประมาณ 37 ราย แบ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง 13 ราย (ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการกลุ่มเสี่ยงสูงเป็นลบ) ส่วนกลุ่มเสี่ยงต่ำ 24 ราย อยู่ระหว่างการเฝ้าระวัง สังเกตอาการ จากเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นการไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งทำให้ผู้อื่นต้องสุ่มเสี่ยงและได้รับผลกระทบทั้งการดำรงชีวิต และด้านเศรษฐกิจด้วย