ทีมข่าวเดินทางไปสอบถาม นายจิว เฮนคุง อายุ 84 ปี ซึ่งเป็นบุคคลในภาพ เล่าว่า ปั๊มน้ำมันดังกล่าวเป็นของตนเอง เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2522 (ระยะเวลา 42 ปี) แต่เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว เขาได้ยกทรัพย์สินทั้งหมดให้กับลูก 3 คน โดยที่ดินพร้อมปั๊มน้ำมันแห่งนี้ ยกให้กับลูกชายคนโต แต่เขาและภรรยาก็ยังอาศัยอยู่และดูแลปั๊มน้ำมันแห่งนี้มาตลอด กระทั่งเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มีหนังสือจากลูกสะใภ้แจ้งว่าเขาค้างชำระค่าเช่าพื้นที่ปั๊มน้ำมันเป็นระยะเวลา 2 ปี รวมเป็นเงินจำนวน 900,000 บาท หากไม่จ่ายเงินค่าเช่า จะถูกไล่ออกทันที
ตอนแรกนายจิว ยอมรับว่าตกใจมาก พยายามติดต่อหาลูกชายคนโต แต่ก็ติดต่อไม่ได้ จนมาทราบภายหลังว่าลูกชายได้โอนที่ดินแปลงนี้ให้กับลูกสะใภ้ไปแล้ว ซึ่งเขาไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน และปัจจุบันลูกชายกับลูกสะใภ้ก็ยังอยู่ด้วยกัน แต่ไม่เคยติดต่อ หรือมาเยี่ยมเยือนพ่อแม่เลย จึงไม่เข้าใจว่า เหตุใดถึงได้ทำกับพ่อเช่นนี้
นายจิวยังบอกอีกว่า ก่อนที่จะยกทรัพย์สินให้กับลูกๆ ทั้ง 3 คน ได้มีข้อตกลงไว้ว่าลูกทั้งหมด ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูพ่อแม่เป็นรายเดือน เดือนละ 20,000 บาท แต่ที่ผ่านมาลูกคนโต และคนกลาง ไม่เคยจ่ายค่าเลี้ยงดูตนเองเลย มีเพียงลูกคนเล็กเท่านั้น ที่คอยมาดูแลพ่อแม่
นายจิวจึงตัดสินใจฟ้องต่อศาลเรียกคืนทรัพย์สินจากลูกชายคนโต เพราะเกรงว่าหากปล่อยไว้ เขาและภรรยาจะกลายเป็นคนหมดตัว และที่สุดศาลได้ตัดสินให้เขาเป็นฝ่ายชนะ แต่ทางลูกสะใภ้ไม่ยินยอม ขอยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอีกครั้ง เรื่องนี้ทำให้ตนเองสุดทนแล้วจริงๆ
จึงตัดสินใจขึ้นป้ายประกาศเพื่อปกป้องตัวเองและพนักงานทุกคนในปั๊มน้ำมัน โดยยืนยันว่าสิ่งที่ทำลงไปมีเหตุผล ไม่เคยคิดที่จะรังแกหรือทำร้ายลูกๆ เลย