เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงประมาณ 10.00 น. ที่ผ่านมา บริเวณถนนบางพรม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ที่บริเวณใกล้สะพาน พบศพ นายนนทชัย กรานเคารพ อายุ 35 ปี ถูกตำรวจวิสามัญเสียชีวิต นอนทับมีดที่ใช้ก่อเหตุอยู่ริมถนน โดยกระสุนเข้าที่กลางศีรษะ 1 นัด ไหปลาร้าขวา 1 นัด และขาขวาอีก 3 นัด ใกล้กันมีรูปแม่และรูปครอบครัวใส่กรอบอยู่ 2 ชิ้น
ส่วนอีกจุดใกล้กัน คือ บ้านพักซึ่งอยู่ในซอยบางพรม 54 ที่ถูกนายนนทชัยจุดไฟเผา เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบภายในบ้านพบศพหญิง อายุ 64 ปี ผู้เป็นแม่ สภาพนอนหงาย ศีรษะถูกรัดด้วยไม้แขวนเสื้อ มีแผลเหวอะหวะที่ใบหน้า ลิ้นถูกตัด กรามถูกเลาะออก นิ้วขาด 2 นิ้ว ตามร่างกายถูกเฉือนแล้วยัดพระเครื่องไว้ด้านใน
น้องชายของผู้เสียชีวิต บอกว่า ก่อนเกิดเหตุ หลานชายเกิดอาการคลุ้มคลั่งเดินถือพระพุทธรูปออกมาจากบ้านพักแล้วมานอนบนถนน จนทำให้รถที่ขับผ่านไปมาต้องคอยหยุดเป็นระยะ จากนั้นหลานชายเดินกลับบ้านไปอาละวาดทำลายข้าวของเสียงดัง จนเขาตัดสินใจแจ้งตำรวจเข้าระงับเหตุ ทันทีที่ตำรวจมาถึง เขาพยายามเข้าไปพูดคุย แต่หลานชายปิดบ้าน จนได้ยินเสียงผิดสังเกต จึงพยายามเรียกหลานชายออกมาแต่ไม่สำเร็จ จากนั้นเขาต้องล่าถอยออกมาเพราะกลัวจะถูกอีกฝ่ายทำร้าย ผ่านไปสักพักก็เห็นกลุ่มควันลอยออกมาจากบ้านของพี่สาว เมื่อเขาไปดูเห็นหลานชายกำลังลากร่างพี่สาวซึ่งคาดว่าเสียชีวิตแล้วออกมาที่หน้าบ้าน แล้วใช้มีดฟันเข้าที่ใบหน้าไม่ยั้ง จนเขาต้องรีบแจ้งตำรวจอีกครั้ง
หลานสาวของหญิงที่เสียชีวิต บอกว่า นายนนทชัยมีอาการคลุ้มคลั่งอาละวาดมาเป็นปีแล้ว โดยมักจะทำร้ายแม่ของตัวเอง จนต่อมาเริ่มทำร้ายคนรอบข้าง จนเธอต้องให้ครอบครัวย้ายไปอยู่ที่อื่นเพื่อความปลอดภัย โดยเคยแจ้งตำรวจไปแล้วหลายครั้งแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ จนมาเกิดเหตุสลดในครั้งนี้
ขณะที่พี่ชายของนายนนทชัย บอกว่า ก่อนหน้านี้น้องชายเคยประสบอุบัติเหตุทำให้กลายเป็นคนสองบุคลิก เชื่อว่าอาการคลุ้มคลั่งไม่ได้เกิดจากการเสพยาเสพติด แต่น่าจะเกิดจากความเครียดและกดดัน ทำให้ควบคุมตัวเองไม่ได้
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ช่วงประมาณ 08.00 น. ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีชายคลุ้มคลั่งถืออาวุธเกรงจะทำร้ายบุคคลอื่นจึงเข้ามาตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบมีควันไฟพวยพุ่งออกมาจากตัวบ้าน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังใช้น้ำดับไฟก็สังเกตเห็นหญิงเจ้าของบ้านนอนอยู่กับพื้นโดยไม่แน่ชัดว่าเสียชีวิตแล้วหรือไม่ ก่อนที่ผู้เป็นลูกชายจะถือมีดวิ่งออกมาจากตัวบ้าน ตำรวจจึงพยายามเข้าจับกุมและได้ยิงปืนเตือนไปหลายนัด อีกฝ่ายทำทียอมจำนวนวางมีดลง แต่กลับคว้าขึ้นมาแล้วพุ่งใส่ตำรวจ จนตำรวจจำเป็นต้องวิสามัญ
ขณะที่จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า นายนนทชัยเคยก่อเหตุชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ เมื่อปี 2548 ในพื้นที่ สน.ตลิ่งชัน โดยหลังพ้นโทษก็ออกมาทำอาชีพรับจ้าง กระทั่งประสบอุบัติเหตุเมื่อปีก่อน (พ.ศ.2563) เบื้องต้นจากการตรวจสอบภายในบ้านพักไม่พบสารเสพติด ส่วน
สาเหตุที่ลงมือก่อเหตุต้องรวบรวมพยานหลักฐานและนำศพของผู้ก่อเหตุไปตรวจพิสูจน์หาสารเสพติดเพื่อยืนยันให้ชัดเจนอีกครั้ง