คอลัมน์หมายเลข 7 ทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริต นำเงินประชาชนคืนสู่แผ่นดิน ปีนี้ก้าวสู่ปีที่ 10 แต่สำหรับรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา 20 พฤษภาคมปีนี้ จะครบ 7 ปี ที่บริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง หลังเข้ายึดอำนาจและมีการเลือกตั้ง ภายหลังการชูธงปราบโกง คือ อีกภารกิจหลักของรัฐบาล แต่ทำได้แค่ไหน ติดตามจากคุณสมจิตต์ นวเครือสุนทร
เกือบ 7 ปี กับภารกิจต้านโกงของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ สำเร็จหรือล้มเหลว คงไม่ใช่เรื่องสองคนยลตามช่อง แต่ชี้วัดผลงานได้จากคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต หรือ CPI ของไทย ที่จัดอันดับโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ในปี 2563 ประเทศไทยทรงตัวอยู่ที่ 36 คะแนนก็จริง แต่อันดับร่วงถึง 8 อันดับ ภายในระยะเวลา 4 ปี นับจากปี 2560 ซึ่งเราอยู่ในอันดับที่ 96 ก่อนจะร่วงมาอยู่อันดับที่ 104 ในปีที่แล้ว ถือเป็นเรื่องท้าทายความเอาจริงเอาจังในการปราบโกงของรัฐบาล
ที่ประกาศในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ว่าจะฉุดดัชนี CPI ให้อยู่สูงกว่าร้อยละ 50 ภายในปีนี้ ซึ่งนั่นหมายถึงว่า ต้องทำคะแนนเพิ่มให้ได้ 14 คะแนนขึ้นไป จะทำได้จริงหรือไม่ เพราะตลอดเกือบ 7 ปี ทำได้ดีที่สุดอยู่ที่ 38 คะแนน เท่านั้น
หากย้อนดูการบริหารของ พลเอก ประยุทธ์ เกี่ยวกับการปราบปรามทุจริต จะเห็นว่ามีการสร้างกลไกต้านโกงในหลากหลายรูปแบบ รวมถึงออกมาตรการและแก้ไขกฎหมายหลายอย่าง ไปจนถึงการสร้างจุดขายให้รัฐธรรมนูญปี 60 เป็นรัฐธรรมนูญปราบโกง แต่ยังมีคำถาม เหตุใดการทุจริตยังเป็นมะเร็งร้าย ที่ทำให้ร่างกายของประเทศไทยอ่อนล้าลงเรื่อย ๆ
มีรายงานว่า ในที่ประชุม ครม. วันที่ 15 ธันวาคมปีที่แล้ว นายกรัฐมนตรี ไม่สบายใจกับเนื้อหาในรายงานของ ป.ป.ช. ที่ระบุว่า รัฐบาลยุค คสช. มีการทุจริตมากที่สุด สั่งการให้ไปแยกรายละเอียดจำนวนให้ชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้ ป.ป.ช. ก็รับลูกดำเนินการให้แล้ว
ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับ ป.ป.ช. ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบ ควรมีจุดสมดุลอย่างไร เป็นอีกหนึ่งโจทย์สำคัญที่ผู้มีอำนาจต้องวางเส้นแบ่งให้ชัดเจน หากล้ำเส้นไปจะเกิดคำถามตามมาทันที เพราะองค์กรตรวจสอบต้องเป็นอิสระ ไม่ใช่เป็นมือเป็นไม้ให้รัฐบาล
ย่างเข้าปีที่ 7 ของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ กับภารกิจปราบโกง ทำได้จริง ยิงได้ตรงปัญหา สร้างศรัทธาว่าไม่มีการเลือกปฏิบัติ จับโกงคนอื่น รวมทั้งคนใกล้ชิดในเครือข่ายรัฐบาลด้วยหรือไม่ มาถึงวันนี้คุณผู้ชมคงมีคำตอบในใจอยู่แล้ว
ตอนหน้า คอลัมน์หมายเลข 7 ชำแหละอันดับ CPI ของไทย ตกต่ำลงเพราะอะไร จะแก้ไขได้หรือไม่ ติดตามได้ในห้องข่าวภาคเที่ยง พรุ่งนี้