ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุมีชายฉกรรจ์ 3 คน แขวนบัตรผู้สื่อข่าวสำนักหนึ่ง อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ศรชล. และเจ้าหน้าที่เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาระนอง เข้ามาในโกดังและท่าเทียบเรือ เพื่อตรวจสอบเรือ ระบุว่า มีเรือย้ายท่ามา โดยไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ ขณะนั้นมีชาวเมียนมา ทำหน้าที่ดูแลการนำสินค้าลงเรือ ซึ่งทั้ง 3 คน ข่มขู่ว่าเรือที่กำลังลงสินค้าไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ ต้องถูกดำเนินคดี ก่อนนำตัวขึ้นรถไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง พร้อมข่มขู่ว่าถ้าไม่อยากถูกจับดำเนินคดี ต้องจ่ายเงิน 100,000 บาท
ด้วยความกลัวติดคุก คนดูแลท่าเรือชาวเมียนมา จึงโทรยืมเงินจากคนรู้จักนำมาจ่ายให้ 70,000 บาท จึงถูกปล่อยตัวออกมา พร้อมข่มขู่ห้ามนำเรื่องไปบอกใคร แต่เรื่องถูกเปิดเผยออกมา เพราะเจ้าของเงินมาหาที่ท่าเรือและเล่าเรื่องให้ฟัง
หลังเกิดเหตุผู้เสียหายโทรสอบถามไปยังเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาระนอง ยืนยันว่าไม่ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ จึงเชื่อว่าถูกหลอก เลยแจ้งไปทาง ศรชล. ล่าสุด นาวาเอกณัฏฐ์ได้พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ปากน้ำระนอง เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มนักข่าวทั้ง 3 คน
เบื้องต้นชุดสืบสวนทราบแล้วว่า กลุ่มคนที่ก่อเหตุเป็นใคร และระหว่างตำรวจสอบปากคำผู้เสียหายอยู่นั้น 1 ใน 3 ผู้สื่อข่าวที่แอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ศรชล. ได้มาที่สถานีตำรวจ ขอเจรจาจ่ายเงินคืนให้ผู้เสียหาย แต่ตำรวจไม่ยอม เพราะมีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ และเป็นการก่อเหตุโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
หลังจากนี้ตำรวจจะออกหมายเรียกนักข่าวทั้ง 3 คน ที่ถูกกล่าวหามาสอบสวน และแจ้งข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว, กรรโชกทรัพย์ และแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หากไม่มาตามนัดก็จะออกหมายจับต่อไป