เบื้องต้นแรงงานทั้ง 7 คน รับสารภาพว่าพวกตนเป็นชาวบ้านบ้านไร่อ้อย ประเทศเมียนมา และกำลังเดินทางไปทำงานกับนายจ้างในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี โดยการลักลอบเดินเท้าข้ามชายแดนมาฝั่งไทยด้วยการใช้ช่องทางธรรมชาติ จากนั้นเดินลัดเลาะไปตามชายป่าเพื่ออ้อมจุดตรวดร่วมน้ำเกริ๊ก ระหว่างนั่งพักก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน
ในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 15.00 น. ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ทหารหน่วย ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ตำบลบ้านเก่า ว่ามีแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ ห่างจากหลังจุดตรวจมั่นคงช่องเขาหนีบไปประมาณ 4 กม.
เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบแรงงานสัญชาติเมียนมา จำนวน 17 คน เป็นชาย 6 คน หญิง 11 คน หลบซ่อนตัวอยู่ภายในสวนของชาวบ้าน โดยทั้งหมดเดินทางมาจากจังหวัดทวาย ประเทศเมียนมา ลักลอบเข้ามาในฝั่งไทยตามช่องทางธรรมชาติ จากนั้นได้มาพักรอยังจุดนัดพบ โดยจะมีรถยนต์มารับไปทำงานใน จ.นครปฐม 9 คน มหาชัย จ.สมุทรสาคร 4 คน และ จ.สมุทรปราการ อีก 2 คน และได้จ่ายเงินให้นายหน้าชาวเมียนมา ชื่อ มิน มิน เป็นค่าหัวคนละ 11,000 บาท แต่ถูกจับกุมตัวได้เสียก่อน
ทั้งนี้ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับกองกำลังสุรสีห์ ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สนธิกำลังปฏิบัติหน้าที่ตามจุดตรวจร่วม รวมทั้งลาดตระเวนตามช่องทางธรรมชาติกันอย่างเข้มข้น เพื่อป้องการการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นสาเหตุของการระบาดของโรคโควิด-19