สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบทั่วโลก และทำให้การเดินทางระหว่างประเทศต้องชะลอตัวหรือต้องหยุดชะงักในบางประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อหลากหลายอาชีพ รวมถึงกระทบต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศด้วย
สถานการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดแนวคิดใหม่คือ วัคซีนทัวร์ หรือ Vaccine Tourism ที่ถูกจัดมาเพื่อฟื้นฟูและส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาท่องเที่ยว พร้อมได้เดินทางเข้ามาฉีดวัคซีนในประเทศนั้นๆ ซึ่งเป็นประเทศที่มีจำนวนวัคซีนมากเพียงพอ ซึ่งทำให้เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวกลับมามีความหวังในการเดินทางอีกครั้ง รวมทั้งยังเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เพื่อยับยั้งการระบาดบาดของโควิด-19
ขณะนี้มีทั้งหมด 6 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งบางรัฐในสหรัฐฯ ได้นำแนวคิดดังกล่าวมาใช้เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ โดยแต่ละประเทศก็มีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
1.สหรัฐอเมริกา
สหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่เริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศ เพื่อเป็นการเร่ง และฟื้นฟูการท่องเที่ยวในประเทศ แต่ขณะนี้มีเพียงแค่ 18 รัฐเท่านั้นที่ฉีดวัคซีนให้บุคคลต่างชาติที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไปสำหรับผู้มีวีซ่าท่องเที่ยว ซึ่ง 18 รัฐที่ฉีดวัคซีนฟรีให้แก่นักท่องเที่ยว ได้แก่ นิวยอร์ก อลาบามา แอริโซนา โคโลลาโด โลวาลุยเซียนา แมรีแลนด์ มิชิแกน มอนทานา เนวาดา นิวแฮมป์เชียร์ นิวเม็กซิโก โอไฮโอ โอคลาโฮมา เท็กซัส เวอร์จีนา เซาท์ แคโรไลนา และเพ็นซิวาเนีย
2.มัลดีฟส์
มัลดีฟท์ได้มีนโยบาย 3V คือ 1. Visit (เยี่ยมเยือน) 2. Vaccinate (ฉีดวัคซีน) และ 3. Vacation (พักร้อน) รวมทั้งการวางแผนการฉีดวัคซีนทั้ง 2 โดสให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศ โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องพักอาศัยที่มัลดีฟส์เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ และระหว่างการรอฉีดวัคซีนในแต่ละโดส รวมทั้งมันใจได้ถึงการเว้นระยะห่างเพราะที่พักส่วนใหญ่ล้วนกระจายตัวอยู่ห่างกันออกไปในแต่ละเกาะ ซึ่งมีความปลอดภัย
3. ดูไบ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตน์
ดูไบ เป็นอีกเมืองที่เปิดรับนักท่องเที่ยวจากทุประเทศให้เข้ามาฉีดวัคซีน โดยมีข้อยกเว้น กรณีที่เป็นเที่ยวบินหรือนักท่องเที่ยวที่มาจากแอฟริกาใต้ ไนจีเรีย และอินเดีย โดยนักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องแสดงผลการทดสอบโควิดที่เป็นลบไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางมาด้วย และอาจมีการให้ทดสอบใหม่ขึ้นอยู่กับประเทศต้นทางที่เดินทางมา
4.เซอร์เบียร์
เซอร์เบียร์ได้มีการทดลองฉีดวัคซีนให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นประเทศที่มีวัคซีนมากกว่าที่ประชาชนต้องการ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาจะได้ฉีด ไฟเซอร์ แอสตร้าเซนเนก้า สปุตนิกไฟว์ และซิโนฟาร์ม แต่ขณะนี้ได้มีการระงับฉีดวัคซีนให้ต่างชาติชั่วคราว เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพื่อฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมาก และทางการต้องการมุ่งเน้นฉีดให้ประชาชนในประเทศก่อน
5.สาธารณรัฐมอริเชียส
สาธารณรัฐมอริเชียส เป็นประเทศที่เป็นเกาะนอกชายฝั่งแอฟริกา ได้มีนโยบายฉีดวัคซีนฟรีให้กับชาวต่างชาติให้ผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปี สำหรับผู้ที่ยื่นขอวีซ่าระยะยาวที่จะได้รับอนุญาตให้ท่องเที่ยวได้ 1 ปี โดยวัคซีนที่ให้บริการนั้น มีวัคซีนโควิชีลด์และวัคซีนโควาซินของบารัต ไบโอเทค จากอินเดีย
6.นอร์เวย์
เมื่อต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา บริษัทท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในนอร์เวย์ได้จัดแพ็กเกจทัวร์รัสเซีย โดยทุกแพ็กเกจจะได้ฉีดวัคซีนสปุตนิก วี ของรัสเซียด้วย ไม่ว่าจะเป็นทริประยะสั้น จำนวน 2 ทริป ภายใน 1 เดือน เพื่อฉีดวัคซีน 2 โดส หรือทริประยะยาว 23 วัน ฉีดวัคซีน 2 โดส และได้พักในสปารีสอร์ทแบบหรูหรา
อย่างไรก็ตาม แนวคิดวัคซีนทัวร์นี้ ทั่วโลกต่างเป้าหมายเดียวกันคือการ หยุดการแพร่ระบาดของโควิด แต่แนวคิดนี้อาจจะสามารถเข้าถึงกลุ่มคนบางกลุ่มเท่านั้น ในขณะที่บางกลุ่มอาจต้องรอวัคซีนจากรัฐบาลของประเทศตัวเองเท่านั้น
