วันนี้ (11 พ.ค.64) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะกรรมการอาหารและยา หรือเอฟดีเอ ของสหรัฐ ออกแถลงการณ์วานนี้ (10 พ.ค.64) เรื่องการอนุมัติใช้งานวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่บริษัทไฟเซอร์ ของสหรัฐฯ พัฒนาร่วมกับบริษัทไบโอเอ็นเทค ของเยอรมนี ในผู้มีอายุระหว่าง 12-15 ปี เบื้องต้นมีการคาดการณ์ว่าจะเริ่มใช้กับกลุ่มผู้มีอายุช่วงดังกล่าวได้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 13 พ.ค.นี้เป็นต้นไป
สำหรับการอนุมัติของเอฟดีเอนั้น ได้อ้างอิงตามผลการทดสอบของไฟเซอร์ ไบโอเอ็นเทค จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 12-15 ปี จำนวน 2,260 คน โดย 18 คนได้รับวัคซีนหลอก ปรากฏว่าวัคซีนให้ประสิทธิผลในการป้องกันการเกิดอาการป่วยในกลุ่มตัวอย่างช่วงวัยนี้ได้ 100% และไฟเซอร์ ไบโอเอ็นเทคร่วมกันยื่นเรื่องต่อเอฟดีเอ เพื่อขอการอนุมัติใช้งานกับกลุ่มตัวอย่างนี้ เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เด็กที่ติดเชื้อโควิด-19 ส่วนใหญ่แสดงอาการน้อย บางรายไม่แสดงอาการ และแทบจะไม่มีความเสี่ยงในการเกิดอาการที่รุนแรง แต่ยังสามารถแพร่เชื้อได้จากการเล่นกีฬาหรือกิจกรรมต่างๆ ตามวัย
ทั้งนี้ วัคซีนโควิด-19 จากทุกบริษัททั่วโลกนั้น เป็นได้รับการอนุมัติใช้งานเป็นการฉุกเฉินเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่มีการอนุญาตให้ใช้ในผู้มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ส่วนวัคซีนของไฟเซอร์ ไบโอเอ็นเทคผ่านการรับรองให้ใช้งานในผู้มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป
ด้านประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้สัญญาว่าจะร่วมต่อสู้เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 อีกทั้งยังกล่าวเชิญชวนอเมริกันอีกว่า ถ้าอยากปกป้องลูกหลานของคุณ และใครที่สนใจฉีดวัคซีน สามารถเดินเข้ามาขอรับการฉีดวัคซีนได้เลย
ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แคนาดาได้อนุมัติการใช้งานวัคซีนของไฟเซอร์ ไบโอเอ็นเทค ในกลุ่มผู้มีอายุระหว่าง 12-15 ปี
