สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรับฯ ได้สั่งการให้หน่วยข่าวกรอง เร่งตรวจสอบหาต้นตอของโควิด-19 โดยให้เพิ่มความพยายามเป็น 2 เท่า และรายงานให้ทราบภายใน 90 วัน เพื่อให้เกิดความชัดเจนในประเด็นต่างๆ รวมถึงประเด็นที่ว่าไวรัสโควิดเกิดขึ้นจากการที่มนุษย์ติดเชื้อจากสัตว์หรือเกิดจากอุบัติเหตุในห้องทดลอง
ขณะที่ แอนดี้ สลาวิตต์ ที่ปรึกษาอาวุโสของทำเนียบขาว แถลงเมื่อวันอังคาร (25 พ.ค.64) ที่ผ่านมา ว่า คำสั่งสอบสวนนี้นับเป็นเรื่องจำเป็นที่สุด และเราต้องการกระบวนการที่โปร่งใสจากจีน เราต้องการความช่วยเหลือจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้เห็น
นอกจากนี้นายไบเดนยังระบุด้วยว่า สหรัฐฯ จะยังคงทำงานร่วมกับพันธมิตรที่มีแนวคิดสอดคล้องกันทั่วโลก เพื่อกดดันจีนให้มีส่วนร่วมกับการสอบสวนของนานาชาติอย่างโปร่งใสและเต็มรูปแบบ โดยมีหลักฐานเป็นพื้นฐาน พร้อมทั้งเปิดให้มีการเข้าถึงข้อมูลและหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย
การเรียกร้องของปธน.สหรัฐฯ ยังเป็นการเพิ่มแรงกดดันมากขึ้นไปยังองค์การอนามัยโลกหรือ WHO ที่กำลังมีการประชุมใหญ่ประจำปีสำหรับประเทศสมาชิกในสัปดาห์นี้ หลังจากที่เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลกได้ทำการสืบสวนต้นตอโควิด-19 และชี้ว่า แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่ไวรัสจะหลุดออกมาจากห้องแล็บ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญที่ร่วมลงพื้นที่บางคนระบุว่า จีนไม่ได้เปิดโอกาสให้มีการเข้าถึงข้อมูลทั้งหมด ทำให้เคลือบแคลงถึงความโปร่งใส
ทั้งนี้ การสั่งสืบสวนของผู้นำสหรัฐฯ ครั้งนี้ มีขึ้นไม่กี่วันหลังจากที่สำนักข่าวหนึ่งของสหรัฐฯ รายงานถึง กรณีที่มี นักวิจัย 3 คนที่สถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่นเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล พร้อม ๆ กัน ในช่วงเดือน พ.ย.63 ขณะที่จีนได้รายงานต่อ องค์การอนามัยโลกว่าพบผู้ป่วยรายแรกที่มีอาการเหมือนโควิด-19 มีขึ้นในวันที่ 8 ธ.ค.63
