สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า วันนี้ (2 ส.ค.64) คณะกรรมาธิการด้านกิจการต่างประเทศพรรครีพับลิกันเปิดเผยรายงานสืบหาต้นตอการระบาดของโควิด-19 ว่า โดยชี้ไปที่หลักฐานพิสูจน์ว่าเป็นการรั่วออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ จากสถาบันวัยไวรัสวิทยาอู่ฮั่น ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย 62 ซึ่งเป็นวันที่ฐานข้อมูลไวรัสวิทยาถูกดึงออกจากระบบอย่างกระทันหันช่วงกลางดึก และตัวไวรัส หรือการจัดเรียงรหัสทางพันธุกรรมของไวรัส มันเป็นการตัดต่อทางพันธุกรรมที่คาดจะถูกเก็บรวบรวมได้มาจากถ้ำในมณฑลยูนนานของจีนระหว่างปี 2555 – 2558
ไมเคิล แม็คคอล ส.ส.พรรครีพับลิกัน จากรัฐเทกซัสเป็นผู้นำการสอบสวนจีนเกี่ยวข้องกับรายงานในเดือน ก.ย.ที่ระบุว่าปักกิ่งพยายามปกปิดและมีความวิตกขั้นร้ายแรงต่อแล็บอู่ฮั่น รายงานใหม่แสดงหลักฐานที่ชี้ไปว่าสถาบันวิจัยไวรัสอู่ฮั่นเป็นแหล่งที่มาของการระบาด และยังแสดงให้เห็นถึงขั้นตอนมากมายที่นักวิจัยประจำสถาบันวิจัยอู่ฮั่น และ ปีเตอร์ ดาสซาค จากอีโคเฮลท์ อัลไลแอนซ์ พยายามปกปิดการวิจัยที่นั่น ซึ่งอาจการสรุปได้ว่า ไวรัสหลุดออกมาจากห้องแล็บ
ทั้งนี้ การค้นพบครั้งใหม่ที่ยืนยันได้ว่าผลงานการวิจัยที่เขียนขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ของสถาบันวิทยาศาสตร์อู่ฮั่นไม่เพียงแต่สามารถพิสูจน์ว่า สถาบันวิจัยแห่งนี้กำลังวิจัยจัดเรียงลำดับพันธุกรรมไวรัสโคโรนาที่เป็นอันตราย และไม่มีความปลอดภัยในระดับชีววิทยา แต่ยังชี้ด้วยว่า นักวิจัยจีนที่นั่นมีความสามารถในการตัดแต่งพันธุกรรมเชื้อไวรัสโคโรนามาตั้งแต่ปี 2559 โดยไม่ทิ้งร่องรอยหลักฐานของการตัดแต่งพันธุกรรมไว้ และคาดไวรัสน่าจะเล็ดรอดออกมาจากห้องแล็บเมื่อราวปลาย ส.ค.หรือไม่ก็ต้น ก.ย.62
เมื่อฝ่ายผู้มีอำนาจจีนจากพรรคคอมมิวนิสต์ และนักวิทยาศาสตร์ประจำห้องแล็บอู่ฮั่นรู้ถึงการเล็ดรอดของไวรัสพวกเขาต่างพยายามหาทางอย่างหนักเพื่อปกปิดซ่อนเร้น รวมไปถึงการนำฐานข้อมูลไวรัสออกจากระบบออนไลน์เมื่อช่วงกลางดึกพร้อมยังร้องขอเงินสนับสนุนเพิ่มทางด้านความมั่นคงเป็นจำนวนกว่า 1 ล้านดอลลาร์
แม็คคอล อธิบายว่า แต่ทุกอย่างสายเกินไป เพราะไวรัสได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองอู่ฮั่นแล้ว และอ้างอิงข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียมภายใน 1 เดือนแสดงให้เห็นถึงจำนวนประชาชนเพิ่มขึ้นที่โรงพยาบาลต่างๆ รอบสถาบันการวิจัยไวรัสอู่ฮั่นที่มีอาการป่วยคล้ายกับโรคโควิด-19 และในช่วงเวลาเดียวกันกับที่นักกีฬาจากการแข่งโอลิมปิกกองทัพโลก เริ่มแสดงอาการป่วยที่คล้ายกับโรคโควิด-19 และมีบางส่วนได้นำเชื้อไวรัสกลับไปประเทศของตัวเอง จนระบาดทั่วโลก
