หลังจากที่เว็ปไซต์รัฐบาลอังกฤษประกาศเตรียมปรับสถานะของไทยจากประเทศสีเหลือง (Amber List) เป็นประเทศสีแดง (Red List) ตั้งแต่เวลา 04.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ของวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดในไทยยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และสำหรับผู้ที่จะเดินทางจากประเทศไทยเข้าสหราชอาณาจักรจะต้องมีคุณสมบัติ คือ มีสัญชาติอังกฤษ มีสัญชาติไอริช หรือมีสิทธิพำนักในสหราชอาณาจักร รวมทั้งผู้ที่มีวีซ่านักเรียน หรือวีซ่า Tier 4 ที่จะไปเรียนต่อในประเทศอังกฤษ
ส่วนผู้ที่มีสิทธิเดินทางเข้าประเทศอังกฤษ ก่อนเดินทางเข้าประเทศจะต้องตรวจโควิด-19 ภายใน 3 วันก่อนเดินทาง จองแพ็กเกจกักตัวในโรงแรมที่รัฐบาลอังกฤษกำหนด และกรอกแบบฟอร์ม Passenger Locator Form จากนั้นเมื่อเดินทางถึงอังกฤษ จะต้องเข้ากักตัวในโรงแรมที่กำหนดเป็นเวลา 10 วัน รวมทั้งตรวจเชื้อโควิด-19 2 ครั้งระหว่างกักตัว ค่าใช้จ่ายราคา 2,285 ปอนด์ หรือราว 102,400 บาท
นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย เปิดเผยว่า เรื่องนี้นับได้ว่าจะส่งผลกระทบต่อโครงการสมุย พลัส โมเดล อย่างแน่นอน เพราะนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ถือเป็นนักท่องเที่ยวอันดับ 3 ของโครงการ ที่เดินทางมาท่องเที่ยวเกาะสมุย สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ ก็ทำได้เพียงรอให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศดีขึ้น
นอกจากนั้นภายหลังจากที่รัฐบาลประกาศรับรองวัคซีน สปุตนิก วี ก็เป็นข่าวดีที่จะมีการขยับตลาดท่องเที่ยวในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย และยูเครน ที่สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยได้ ขณะนี้มีการพูดคุยกับเอเจนซีรัสเซียแล้วก็เป็นความหวังว่าในไตรมาสที่ 4 และไตรมาสแรกของปี 2565 ก็จะมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย และยูเครน เข้ามาท่องเที่ยว สำหรับในเรื่องของราคาค่าตรวจหาเชื้อโควิด-19 และค่าดำเนินการทางสาธารณสุขที่ค่อนข้างสูง ก็เป็นปัญหาทั้งเกาะสมุยและภูเก็ตเช่นเดียวกัน หากรัฐช่วยลดราคาตรงนี้ได้ก็จะแบ่งเบาภาระของนักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวก็จะพิจารณาในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้นจะมีนักท่องเที่ยวมากกว่าเดิม
ขณะที่ยอดจองห้องพักในโครงการ Phuket Sandbox 7+7 Extension คือ 7 วันแรกอยู่ภูเก็ต 7 วันหลังอยู่เกาะสมุย ในส่วนของเกาะสมุยที่เปิดจองได้ 4 วัน ขณะนี้มียอดจองห้องพักแล้วกว่า 900 รูมไนท์ ก็จะทำให้มีรายได้กระจายถึงผู้ประกอบการในพื้นที่มากขึ้น