“วันนี้ความสามารถทางการแพทย์ถึงจุดวิกฤต จากโควิดสายพันธุ์เดลตาที่รุนแรงขึ้น กระจายไปทั่วภูเก็ต คนภูเก็ตต้องเดินหน้าต่อ สถานการณ์เตียงใกล้วิกฤต ต้องปรับวิธีคิดวิธีทำงานกันใหม่ โดยจะประชุมหารือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ อสม.ในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้นำแนวทางการปฏิบัติร่วมกันดูแลกลุ่มผู้ป่วยสีเขียวที่ไม่มีอาการต่อไป” ผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าว
ด้าน นพ.เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่า เชื้อเดลตาเข้ามาระบาดในภูเก็ต 70% ชัดเจนว่าฉีดวัคซีน 2 เข็ม ไม่ป้องกันการติดโควิด-19 ปัญหาคือ ถ้ามีผู้ป่วยติดเชื้อมากกว่า 200 คน มากขึ้น วิกฤตเกิดกับการที่มีคนไข้สีเหลืองและแดง
"ขณะนี้ อัตราการครองเตียงในโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชนเต็มและล้น เป็นวิกฤตแล้ว อัตราครองเตียง 80% ในโรงพยาบาลหลัก ได้ขยายเตียงไปที่โรงพยาบาลสนามแห่งที่ 1 และแห่งที่ 2 ที่เคยรับผู้ป่วยสีเขียว ต้องปรับเป็นรับผู้ป่วยสีเหลืองแทน ถ้าให้ชุมชนช่วยดูแลผู้ป่วยสีเขียวจะลดการมาโรงพยาบาลได้ ซึ่งโรงพยาบาลต้องการเก็บเตียงให้ผู้ป่วยที่มีอาการได้รับการรักษาที่เหมาะสม ขณะที่วัคซีนที่ฉีด 2 เข็ม เอาไม่อยู่กับเดลตา เราได้ขยายศูนย์ CI , Hospitel Isolation หลายแห่ง คนไข้ 85% เป็นสีเขียว จะให้ท้องถิ่นดูแลรับผิดชอบ จัดผู้ป่วยสีเขียวให้อยู่บ้าน หรือ Hospitel ส่วนระบบสาธารณสุข เราดูแลให้ ต้องช่วยกันดูแลต้องการเก็บเตียงในโรงพยาบาลให้คนไข้ที่จำเป็นจริงๆ ให้สาธารณสุขไปรอด ภูเก็ตแซนด์บอกซ์เดินต่อได้ ต้องปรับตามสถานการณ์ เพื่อภูเก็ตเดินหน้าต่อสามารถป้องกันโควิดสายพันธุ์เดลต้าได้" นพ.เฉลิมพงษ์ กล่าว