ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อไปยังเจ้าของเฟซบุ๊ก ดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังว่าคือ นายจิตติศักดิ์ อายุ 35 ปี อยู่ที่ ต.ท่าโรง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ โดยนายจิตติศักดิ์ ได้เปิดเผยว่า ตนได้ทำเรื่องขอกู้เงินโดยผ่านระบบออนไลน์ เนื่องจากตนเองตกงานมานานหลายเดือน และต้องดูแลแม่ที่ป่วย จึงต้องการหาอาชีพที่สร้างรายได้ที่บ้าน เพื่อที่จะได้มีโอกาสดูแลมารดาได้อย่างใกล้ชิด จึงทำการปรับปรุงพื้นที่ในบริเวณบ้านเพื่อปลูกต้นไม้ แต่เงินไม่พอ และพอดีว่าเห็นประกาศให้กู้เงินในเฟซบุ๊ก จึงได้ติดต่อไปผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ชื่อว่า “เจ้ดาว” มีการสอบถามรายละเอียดผ่านทางแชทที่ต้นทาง โดย เจ๊ดาว แจ้งว่า การกู้เงินต้องมีค่าดำเนินการ ค่าเดินเรื่อง 400 บาท ค่าประกัน 800 บาท และชำระค่าธรรมเนียมล่วงหน้าอีก 2,000 บาท ด้วยความรีบร้อนต้องการเงินมาจ่ายค่าดินและค่าช่าง ตนจึงทำการโอนเงิน จำนวน 3,200 บาท ผ่านธนาคารแห่งหนึ่งให้กับผู้ให้กู้ หรือเจ้ดาว จากนั้นเจ้ดาวได้โอนเรื่องให้กับ “เฮียแบงค์ เงินด่วน” เพื่อติดต่อขอรับเงินทางแชท ผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์เหมือนเดิม ตนเองเริ่มไม่มั่นใจ จึงเดินทางไปที่ สภ.วิเชียรบุรี เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ และในระหว่างนั้นยังได้ติดต่อกับเฮียแบงค์ เงินด่วนอยู่ โดยปลายทางแจ้งว่าให้โอนเงินเพิ่มอีก 1,000 บาท โดยไม่ทราบว่าตนเองอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
หลังจากได้รับสำเนาเอกสารใบแจ้งความร้องทุกข์ จากพนักงานสอบสวน สภ.วิเชียรบุรี แล้วตนได้รีบไปติดต่อกับธนาคาร เพื่อทำการอายัดบัญชีของผู้ที่รับโอนเงิน แต่ได้รับคำตอบว่า คิวเต็ม ให้มารับบัตรคิวใหม่ในวันพรุ่งนี้ (30 ก.ย.) ตนเองก็หนักใจว่าจะได้รับเงินคืนหรือไม่ ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะแม่ก็ป่วยต้องดูแล จะลงทุนประกอบอาชีพเพื่อหารายได้ ก็มาถูกโกง ทุกวันนี้ต้องขอข้าววัดกินทุกวัน ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร
จึงอยากนำเสนอ เพื่อเป็นการเตือนภัย ให้กับทุกคนได้รับทราบ จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพอีกต่อไป ส่วนเงินที่โอนไปให้กับแก๊งเงินกู้นอกระบบ ก็ยืมมาจากคนอื่นอีกที จึงวอนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามให้ตนเองได้เงินคืนด้วย