7HDร้อนออนไลน์

เตือน 3 อำเภอ ที่สระบุรี รับมวลน้ำ หลังผนังคลองชลประทานเริงราง พังเป็นแนวยาว

เตือน 3 อำเภอ ที่สระบุรี รับมวลน้ำ หลังผนังคลองชลประทานเริงราง พังเป็นแนวยาว
2 ตุลาคม 2564 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบ มวลน้ำในคลองชลประทานเริงราง ที่รับน้ำมาจาก คลองชัยนาท-ป่าสัก ในพื้นที่ ต. สร่างโศก อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี พบว่าผนังคอนกรีต และ ถนนเลียบคลองชลประทาน ซึ่งเป็นแนวคันกั้นน้ำถูกมวลน้ำกัดเซาะฐานราก เกิดทรุดพัง เป็นวงกว้าง ความยาว ประมาณ เกือบ 10 เมตร  ส่งผลให้มวลน้ำจำนวนมากทะลักไปยังทุ่งนาด้านข้างไร้ทิศทางไม่ถึง 10 นาที เข้าท่วมบ้าน ประชาชนทันที ในพื้นที่ไปแล้วกว่า 50 หลังคาเรือน มวลน้ำจำนวนมาก  ยังไหลหลากท่วม พืชสวนไร่นาของเกษตรกร อีกหลายร้อยไร่ โดยเส้นทางมวลน้ำดังกล่าว  ยัง ไหลหลากไปยัง 2 อำเภอใกล้เคียงอย่าง อำเภอหนองโดน และอำเภอดอนพุด ซึ่ง คาดว่า มวลน้ำดังกล่าว จะส่งผลกระทบกับบ้านเรือนประชาชนใน 2 พื้นที่ กว่า 200 -300 หลังคาเรือน

จึงขอให้ชาวบ้านตามเส้นทางน้ำไหลหลาก เฝ้าระวังเตรียม ขนย้าย ข้าวของขึ้นที่สูง หรือเตรียมรับมวลน้ำ ดังกล่าวไว้ด้วย ส่วนหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องและสำนักงานชลประทานเริงราง นำรถแบคโฮ ขนก้อนหินขนาดใหญ่ถมทับให้เป็นแนวกั้น เพื่ออุดรอยรั่วดังกล่าว แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะ สามารถปิดรอยแตกขนาดใหญ่ ดังกล่าวได้

น.ส. บุญนำ จีบแก้ว อายุ 42 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เผยว่า คลองชลประทานดังกล่าว อยู่ในความรับผิดชอบ ของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเริงราง ซึ่งอยู่ตรงข้ามถนน กับ จุดที่ผนังคลองชลประทานถูกน้ำกัดเซาะพัง ซึ่งมวลน้ำดังกล่าวมาจากคลองชัยนาท-ป่าสัก โดยรับน้ำมาจากประตูระบายน้ำ ใน จังหวัดลพบุรี และเขื่อนในจังหวัด ชัยนาท ซึ่งมวลน้ำจากคลองชัยนาท-ป่าสัก ถูกผันน้ำ เข้าคลองชลประทานเริงราง บริเวณโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเริงราง ดังกล่าว เพื่อระบายน้ำไปตามเส้นทางคลองชลประทาน  ผ่าน ไปยัง อำเภอหนองโดน เชื่อมต่อไปยังอำเภอ ดอนพุด เพื่อไปออกแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่ จังหวัด พระนครศรีอยุธยา  

ส่วนสาเหตุบริเวณดังกล่าวเกิดทรุดตัว เนื่องจากมวลน้ำมีปริมาณมากกัดเซาะฐานราก ของผนังคอนกรีต และถนนเลียบคลองดังกล่าว จนเป็นหลุมขนาดใหญ่มวลน้ำที่ไหลหลาก ขณะนี้อยู่บริเวณ ตำบลตลาดน้อย ในพื้นที่ อำเภอบ้านหมอ เชื่อมต่อ อำเภอหนองโดน  และกำลังไหลหลาก เข้า ท่วม บ้านเรือนปราชน พื้นที่ อำเภอหนองโดน  เพื่อต่อไปยัง อำเภอดอนพุด และจังหวัดใกล้เคียง

ด้าน นาย สุชาติ พลอยสุข อายุ 61 ปี 1 ในผู้เสียหายที่ถูกน้ำหลากท่วมบ้าน เล่าว่า ขณะนั้น มวลน้ำเข้าไหลหลากเข้าท่วมบ้าน ตนเองอย่างรวดเร็ว ประมาณไม่ถึง 10 นาที   ก็ท่วมบ้านหมดทั้งหลัง ข้าวของเครื่อง ใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า และ รถยนต์กระบะ อีกทั้ง จักรยานยนต์ อีก 2 คัน  ทุกอย่างถูกน้ำท่วมหมดเหลือแต่ตัวเอง ที่สามารถ หนีออกมาได้ ทัน ซึ่งบ้านตนเอง เป็นแนวเดียวกับ มวลน้ำมหาศาล ดังกล่าว ที่ไหลหลากออกไปจากบริเวณจุดที่ ผนังคลองชลประทานแตก ดังกล่าว 

ด้าน น.ส.เอื้อมพร ชิดดอน รองนายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลตลาดน้อย เผยว่า บริเวณ นี้ เป็นพื้นที่รอยต่อ 2 หน่วยงาน คือ เทศบาล ตำบลตลาดน้อยและเทศบาล ตำบลสร่างโศก ซึ่งขณะนี้ทางชลประทาน ได้เปลี่ยนแผนปิดกั้นรอยรั่ว  จากการ ใช้รถแบคโฮ นำก้อนหินขนาดใหญ่มาปิดกั้นรอยรั่ว แต่ยังไม่สำเร็จ จึงต้อง ใช้วิธีปิดทางน้ำไหล บริเวณประตูระบายน้ำ เพื่อลดแรงดันน้ำ จากนั้นจะใช้รถแบคโฮอุดทางน้ำชั่วคราวก่อน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถปิดกั้นพื้นที่รอยแตกรั่วของมวลน้ำจำนวนมาก ที่กำลังทะลักไหลหลากไปยัง พื้นที่อำเภอบ้านหมอ และอีก 2 อำเภอ รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง จึงขอให้ชาวบ้านตามแนว มวลน้ำไหลหลากเตรียมเฝ้าระวังรับมวลน้ำ มหาศาลดังกล่าว ไว้ด้วย