เปิดผลตรวจการระบาดหลักในไทย ยังเป็นสายพันธุ์เดลตา 98.6% และสายพันธุ์บีตา 0.8% พบในภาคใต้ ส่วนสายพันธุ์แอลฟา พบว่าลดลงเหลือ 0.6%
นอกจากนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รายงานพบสายพันธุ์ แอลฟาพลัส 18 คน พบที่จังหวัดเชียงใหม่ จันทบุรี และตราด
ส่วนโควิดกลายพันธุ์เดลตาพลัส กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยข้อมูลสอบสวนโรค เป็นผู้ป่วยชายไทย อายุ 49 ปี จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้ารักษาในโรงพยาบาลสนาม หายป่วยแล้ว ผลการถอดรหัสจีโนม ที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร จังหวัดกำแพงเพชร พบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาพลัส AY.1 แต่ไม่ได้ระบาด ไม่มีอาการรุนแรง และไม่ดื้อวัคซีน
ขณะที่ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ โดยมี 45 ประเทศ 1 เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ที่เดินทางเข้ามาได้ โดยไม่ต้องกักตัว แต่ต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ก่อนเดินทางเข้ามา มีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ และเมื่อถึงไทยต้องกักตัวในโรงแรม 1 คืน เพื่อรอผลตรวจโควิด-19 ซ้ำอีกครั้ง โดยนักท่องเที่ยวจะต้องอยู่ในรูปแบบ Sealed Route คือรอผลตรวจในที่พักไม่ไกลจากสนามบิน โดยต้องใช้เวลาเดินทางจากสนามบินไม่เกิน 2 ชั่วโมง หากเป็นลบ ก็สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้
ส่วนเด็กที่ติดตามผู้ปกครองเข้ามา ทั้งที่ฉีด และไม่ได้ฉีดวัคซีน จะต้องตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ด้วยเช่นกัน โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมด นักท่องเที่ยวต้องเป็นผู้รับผิดชอบเอง แต่รัฐบาลจะควบคุมเกณฑ์ราคาที่เหมาะสม เช่น ค่าตรวจอยู่ที่ 1,300 บาท และไม่เกิน 1,600 บาท ส่วนจังหวัดท่องเที่ยวแต่ละพื้นที่ สามารถกำหนดมาตรการควบคุมโรคเพิ่มเติมตามแต่ละพื้นที่ได้
การตรวจพบโควิด-19 กลายพันธุ์ในไทย ขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก กระทรวงสาธารณสุขไม่เคยปกปิดข้อมูล และยืนยันไม่มีผลต่อการเปิดประเทศอย่างแน่นอน