ให้ออกจากราชการ ตำรวจพัวพันขบวนการค้าแรงงานเถื่อน จ.ตาก
โดย พลตำรวจโท อัคราเดช พิมลศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 เปิดเผยว่า จากการสอบสวนขยายผลผู้ต้องหาชายอายุ 34 ปี ที่ได้ลักลอบขนแรงงานผิดกฎหมาย และถูกตำรวจ สภ.แม่สอด จังหวัดตาก จับกุมได้เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน โดยผู้ต้องหาได้ให้การซัดทอด และมีหลักฐานเชื่อมโยงกับดาบตำรวจนายหนึ่ง สังกัด สภ.แม่สอด กระทั่งได้มีการสั่งการให้สืบสวนเชิงลับ จนมีหลักฐานแน่ชัดว่า ดาบตำรวจคนดังกล่าวมีส่วนร่วมกระทำความผิด จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลจังหวัดแม่สอด ออกหมายจับ ดาบตำรวจ ธิติพงษ์ ปันทิ อายุ 37 ปี สังกัด สภ.แม่สอด เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ล่าสุดสามารถจับกุมตัวได้แล้ว พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันช่วยเหลือซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใด ให้บุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย หลังจากนั้นได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดแม่สอด ไปตรวจค้นที่บ้านของผู้ต้องหา ไปตรวจยึดอาวุธปืนสั้น จำนวน 1 กระบอก จึงแจ้งข้อหาเพิ่มเติม มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผล และต่อมามีคำสั่งจากตำรวจภูธรจังหวัดตาก ให้ดาบตำรวจธิติพงษ์ออกราชการไว้ก่อน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมา
ขณะที่ทาง พลตำรวจตรี สิทธิชัย โล่กันภัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ระบุว่า คดีนี้ไม่ได้มีดาบตำรวจธิติพงษ์เพียงคนเดียว จากการสืบทราบเบื้องต้นยังมีบุคคลอื่นร่วมด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ครบทุกคน
จับแรงงานเมียนมา 13 คน หลบหนีเข้าเมือง จ.ตาก
หลังจากการแถลงข่าวไม่กี่ชั่วโมง นายอำเภอวังเจ้า ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากสายข่าวว่า จะมีการลักลอบขนแรงงานผิดกฎหมาย ในเส้นทางบ้านผาผึ้ง ตำบลเชียงทอง ผ่านมาทางบ้านท่าทองแดง ตำบลนาโบสถ์ อำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก ซึ่งเป็นเส้นทางป่าและภูเขา ที่ทอดยาวเชื่อมต่อกับชายแดน อำเภอพบพระ จึงได้มอบหมาย ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นำกำลังฝ่ายปกครอง ร่วมกับทหารชุดปฏิบัติการลาดตระเวน ตำรวจ สภ.วังเจ้า, อส.วังเจ้า และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ไปวางกำลังสกัดจับตามเส้นทาง จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสกัดจับรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ สีดำ ป้ายแดงคันหนึ่ง ขณะกำลังขนแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน โดยพบนั่งอัดกันมาบนท้ายรถกระบะ ขณะกำลังขับฝ่าความมืด ผ่านบริเวณแยกกิ่วดู่ โดยได้ผู้ต้องหาเป็นผู้นำพาคนไทย 2 คน แรงงานชาวเมียนมา 13 คน เป็นชาย 7 คน และหญิงอีก 6 คน ก่อนควบคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังเจ้า เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 ต่อไป