ขณะที่ วันนี้ยังมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิอาสาร่วมกตัญญูอีกจำนวนหนึ่ง ไปเข้าพบพนักงานสอบสวนสน.โคกคราม เพื่อให้ปากคำ ในฐานะผู้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย
โดยนายสัญญา เอี่ยมใย เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู เล่าว่า ในวันเกิดเหตุกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สี่แยกเตาปูน ได้รับการร้องขอผ่านวิทยุคลื่นสั้น ให้ช่วยสนับสนุนเรื่องเวชภัณฑ์ ที่บริเวณสี่แยกพงษ์เพชร กระทั่งไปถึงก็ทราบเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ว่ามีเหตุการณ์ที่เพื่อนในมูลนิธิร่วมกตัญญู ถูกเจ้าหน้าที่มูลนิธิเพชรเกษม รุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ แต่หลังจากเหตุการณ์เริ่มคลี่คลาย ทั้งหมดก็ได้พากันแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเองต่อ เพราะเกรงว่าเรื่องราวจะบานปลาย โดยตนเองได้ขับรถไปทางเส้นเกษตรนวมินทร์ ผ่านไปที่ปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ ซึ่งเห็นมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษมรวมกันอยู่จำนวนมาก ระหว่างนั้นก็ได้ยินการตะโกนด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย และมีการท้าทาย แต่ตนเองไม่สนใจจึงขับรถต่อไป แต่สังเกตเห็นเพื่อนที่ขับรถตามมาด้วยกันจอดรถ บริเวณหน้าปั๊ม จากนั้นก็ได้ยินเสียงดังขึ้นหลายนัด ทำให้ตัวเองและภรรยาที่นั่งในรถ รู้สึกกลัว ต้องไปหาที่จอดรถ เพื่อหลบชั่วคราว กระทั่งรถเพื่อนคันอื่นขับออกจากที่เกิดเหตุไปจนหมด ยืนยันไม่ได้ทราบมาก่อนว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว จะมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิเพชรเกษมรวมตัวกันอยู่ภายในปั๊ม และไม่ใช่การนัดหมายไปเอาคืน หรือล้างแค้นแทนเพื่อนที่บาดเจ็บแต่อย่างใด
ทั้งนี้ หลังจากให้ปากคำเสร็จสิ้น นายสัญญา ยอมรับว่า รถตู้คันที่จอดอยู่ใน สน.โคกคราม เป็นหนึ่งในรถที่อยู่ในเหตุการณ์จริง แต่ไม่ใช่รถคันที่พาผู้ก่อเหตุยิงหลบหนี เพราะได้เห็นหลักฐานที่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดมาแล้ว